กกพ. ขึ้นค่าไฟงวด ม.ค.-เม.ย. 67 อีก 69 สตางค์ เป็น 4.68 บาทต่อหน่วย

มิเตอร์ ค่าไฟฟ้า พลังงาน

“กกพ.” ประกาศผลสรุปการรับฟังความเห็นค่าไฟงวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2567 ขยับขึ้น 69 สตางค์ จาก 3.99 เป็น 4.68 บาทต่อหน่วย

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 ในการประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ครั้งที่ 53/2566 (ครั้งที่ 881) วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 มีมติรับทราบผลการรับฟังความคิดเห็นค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) และมีมติเห็นชอบให้ปรับค่าเอฟทีขายปลีก สำหรับเรียกเก็บในงวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2567 เท่ากับ 89.55 สตางค์ต่อหน่วย

ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 69.07 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าเรียกเก็บของผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภทเฉลี่ยรวมอยู่ที่ 4.68 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) จากงวดก่อนหน้า 3.99 บาทต่อหน่วย

“การพิจารณาปรับค่าเอฟทีในงวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2567 นี้ กกพ.คำนึงถึงผลกระทบต่อผู้ใช้ไฟฟ้า และขณะเดียวกันต้องไม่กระทบต่อศักยภาพความมั่นคงในการบริการพลังงานของ กฟผ. โดยเป็นการปรับให้สะท้อนต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น และคืนต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่ กฟผ.รับภาระไว้บางส่วน เพื่อให้ กฟผ.มีสภาพคล่องในการดำเนินงานและชำระคืนเงินกู้เท่าที่จำเป็น”

นอกจากนี้ กกพ.ขอเชิญชวนประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าร่วมกันประหยัดการใช้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าได้ง่าย ๆ 5 ป. ได้แก่

  • ปลด หรือถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าลดการใช้ไฟฟ้าเมื่อใช้งานเสร็จ
  • ปิด หรือดับไฟเมื่อเลิกใช้งาน
  • ปรับ อุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้อยู่ที่ 26 องศาเซลเซียส
  • เปลี่ยน มาใช้อุปกรณ์ประหยัดไฟเบอร์ 5
  • ปลูก เพื่อเป็นร่มเงาลดอุณหภูมิให้กับตัวบ้าน

จะสามารถช่วยลดการนำเข้าเชื้อเพลิงราคาแพง ซึ่งจะเป็นการลดภาระค่าครองชีพสำหรับตัวท่านเอง และยังจะเป็นการร่วมแรงร่วมใจกันลดภาระโดยรวมให้กับประเทศชาติอีกทางหนึ่งด้วย