แม้ประเทศไทยจะเบรกการยกระดับเครื่องยนต์ของรถยนต์ดีเซลขนาดเล็กและขนาดใหญ่ออกไปก่อน เพื่อยืดเวลาให้ผู้ประกอบการขนส่งได้ปรับตัว จากเดิมที่วางเป้าไว้ในวันที่ 1 มกราคม 2569
ทว่าก็อาจสร้างความกังวลให้สังคมว่า แล้วมาตรฐาน “น้ำมันยูโร 5” ที่เพิ่งยกระดับกันเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2567 จะต้องเปลี่ยนไปเป็นมาตรฐานยูโร 6 พร้อมเครื่องยนต์ด้วยหรือไม่ “ประชาชาติธุรกิจ” มีคำตอบ
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
แหล่งข่าวจากกรมธุรกิจพลังงานกล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันคุณภาพน้ำมันของประเทศไทยที่มาตรฐานยูโร 5 ถือเป็นมาตรฐานน้ำมันระดับสูงสุดแล้ว ณ ปัจจุบัน จึงจะไม่มีทางปรับเปลี่ยนมาตรฐานน้ำมันเป็นยูโร 6 อย่างแน่นอน
อีกทั้งสามารถใช้กับเครื่องยนต์มาตรฐานยูโร 6 ได้ เพราะทั้งมาตรฐานยูโร 5 และยูโร 6 ของเครื่องยนต์เหมือนเดิมทั้งคู่ แต่แค่เพิ่มประสิทธิภาพเครื่องดักมลพิษให้กรองไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) เพิ่มมากขึ้น จาก 0.180 กรัมต่อกิโลเมตรในเครื่องยนต์ยูโร 5 ให้เหลืออยู่ที่ 0.080 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น
สรุปได้ว่า แม้จะเปลี่ยนเครื่องยนต์ดีเซลจากมาตรฐานยูโร 5 ไปเป็นมาตรฐานยูโร 6 ก็จะไม่กระทบกับการใช้น้ำมันมาตรฐานยูโร 5 อย่างแน่นอน เพราะว่าถือว่าเป็นมาตรฐานน้ำมันสูงสุดที่หลายประเทศทั่วโลกทั้งยุโรป สหรัฐอเมริกา จีน สิงค์โปร หรือมาเลเซียก็เริ่มหันมาใช้น้ำมันมาตรฐานยูโร 5 กันเป็นที่เรียบร้อย
โดยมาตรฐานน้ำมันยูโร 5 คือ ข้อกำหนดหลักเพื่อใช้ควบคุมปริมาณกำมะถัน สารอะโรเมติกส์ และสารประกอบไฮโดรคาร์บอน เพื่อลดการปล่อยมลพิษ ซึ่งมาตรฐานยูโร 5 ของประเทศไทยกำหนดให้ปรับลดปริมาณกำมะถันจากไม่สูงกว่า 50 เป็นไม่สูงกว่า 10 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม (10 ppm) และน้ำมันกลุ่มดีเซลจะต้องยกระดับมาตรฐานคุณภาพเพิ่มเติม ลดปริมาณสารโพลีไซคลิก อะโรเมติกส์ ไฮโดรคาร์บอน (PAHs) จากไม่ให้เกิน 11% เป็นไม่ให้เกิน 8% ทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถช่วยลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ได้