เว้นภาษีให้ 4 กลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

เว้นภาษีให้ 4 กลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

กระทรวงอุตสาหกรรม-กระทรวงกลาโหม จับมือเร่งส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ตั้งคณะทำงานศึกษาและพัฒนายกระดับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เผย 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์เป้าหมาย ยานพาหนะรบ ต่อเรือ อากาศยานไร้คนขับ อาวุธ-กระสุนปืน ดันตั้งโรงงานในเขตปลอดอากร (Freezone) ได้ยกเว้นภาษีนำเข้าวัตถุดิบ ชิ้นส่วน

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ตนได้เข้าพบและหารือกับนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งทั้ง 2 กระทรวง เห็นร่วมกันถึงความสำคัญและร่วมกันผลักดันเพื่อให้เกิดการพัฒนา รวมถึงการลดข้อจำกัดและกฎระเบียบต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคในการพัฒนาอุตสาหกรรม โดยได้มีการดำเนินการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาและพัฒนายกระดับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

“จากนี้ทั้ง 2 ฝ่ายจะมีการหารือในรายละเอียดและกำหนดแนวทางปฏิบัติ โดยจะส่งแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศให้กระทรวงกลาโหมใช้ประกอบการพิจารณาของคณะทำงานเพื่อศึกษาและพัฒนายกระดับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศต่อไป”

สำหรับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ซึ่งเป็น new S curve ที่ 12 ให้เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ให้กับประเทศ และลดการนำเข้า โดยได้กำหนดผลิตภัณฑ์เป้าหมายที่มีศักยภาพเบื้องต้นนำร่อง 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มยานพาหนะรบ 2.กลุ่มอุตสาหกรรมต่อเรือ 3.กลุ่มอากาศยานไร้คนขับ และ 4.กลุ่มอาวุธและกระสุนปืนสำหรับการป้องกันประเทศและกีฬา

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมากระทรวงอุตสาหกรรมได้มีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่าผู้ผลิตในประเทศไม่สามารถแข่งขันได้ เนื่องจากปัญหาต้นทุนการผลิตเป็นผลมาจากอากรวัตถุดิบหรือชิ้นส่วนที่นำเข้าสูงกว่าอากรยุทธภัณฑ์ที่นำเข้าเป็นสินค้าสำเร็จรูป ทำให้ยุทธภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศมีราคาสูง ส่งผลให้การใช้ในประเทศจากกองทัพยังมีไม่มาก รวมทั้งกฎระเบียบต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรค เช่น ขั้นตอนการดำเนินการแบบรัฐต่อรัฐ (G2G) ที่ใช้เวลานาน ทำให้สูญเสียโอกาสในการส่งออก

สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาด้านโครงสร้างภาษี ในเบื้องต้นทางกระทรวงอุตสาหกรรม สนับสนุนใช้กลไกการจัดตั้งโรงงานในเขตปลอดอากร (Freezone) ซึ่งผู้ประกอบการจะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าวัตถุดิบ ชิ้นส่วน เพื่อนำมาประกอบหรือผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ในกรณีที่ส่งออก

ขณะเดียวกัน สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย หากเข้าตามเงื่อนไขที่กำหนดคือ Local Content มากกว่า 40% และมีกระบวนการผลิตที่มีสาระสำคัญตามที่ สศอ.กำหนด จะส่งผลให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนการผลิตที่ลดลง และสามารถขายได้ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ

นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า การพัฒนาส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ นอกจากจะพิจารณาในแง่การลดอุปสรรคในการแข่งขันแล้ว การส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมยังก่อให้เกิดประโยชน์ในวงกว้าง เช่น การพัฒนาอากาศยานไร้คนขับ นอกจากจะให้เกิดประโยชน์ทางการทหารแล้ว ยังสามารถพัฒนาให้เป็น Dual Used ได้ เช่น การพัฒนาอากาศยานไร้คนขับใช้ในการแพทย์เพื่อขนส่งผู้ป่วย หรือใช้ในการเกษตรสมัยใหม่ ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศขยายวงกว้างขึ้น