ธรรมนัส สั่ง คุมเข้มนำเข้ามะพร้าว พบแมลงศัตรูพืช การงอก ส่งกลับหรือเผาทำลายทันที

ธรรมนัส สั่ง กรมวิชาการเกษตร คุมเข้มนำเข้ามะพร้าว พบแมลงศัตรูพืช การงอก ส่งกลับหรือเผาทำลายทันที พร้อมขยายผลตรวจเข้มสินค้าเกษตรอื่น ๆ แนวชายแดน ป้องกันลักลอบนำเข้า

วันที่ 1 เมษายน 2567 นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ตามนโยบาย ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จากการประชุมหารือมาตรการนำเข้ามะพร้าวและผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ด้านการผลิต ราคา การตลาด การนำเข้ากะทิ มะพร้าวแก่ปอกเปลือกจากต่างประเทศ ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าว และตัวแทนเครือข่ายชาวสวนมะพร้าวของไทย

จำเป็นต้องมีมาตรการป้องกันการลักลอบนำเข้ามะพร้าว จากต่างประเทศโดยเคร่งครัด โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษพญานาคราช

ที่ทำงานบูรณาการตรวจ ร่วมกับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมศุลกากร ตำรวจ ทหาร มหาดไทย และหน่วยงานความมั่นคงอื่น ๆ โดยเฉพาะด่านตรวจพืช กรมวิชาการเกษตร ที่ต้องคุมเข้ม ควบคุมป้องกันการนำเข้ามะพร้าวในโควตา และนอกโควตา รวมถึงการเฝ้าระวังแมลงศัตรูพืชและการงอกของมะพร้าว

โดยทำการตรวจสอบอย่างเคร่งครัด ทำการเปิดตรวจตู้ 100% ทุกชิปเมนต์ หากพบแมลงศัตรูพืช หรือการงอก ให้ดำเนินการส่งกลับหรือเผาทำลายทันทีทั้ง ชิปเมนต์ พร้อมขยายผลตรวจเข้มสินค้าเกษตรอื่น ๆ แนวชายแดน ป้องกันลักลอบนำเข้า และขอความร่วมมือผู้ประกอบการร่วมปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด

วันที่ 31 มีนาคม 2567 ได้ลงพื้นที่ด่านตรวจพืชท่าเรือกรุงเทพ ตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เพื่อติดตามการปฏิบัติงานการตรวจสอบการนำเข้ามะพร้าว และผลิตภัณฑ์มะพร้าว ป้องกัน ควบคุม เฝ้าระวัง โรค และศัตรูพืชที่อาจจะติดมาก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของศัตรูพืชร้ายแรง ตลอดจนสร้างความเสียหายแก่พืชเศรษฐกิจ และระบบการผลิตพืชของประเทศไทย ซึ่งมะพร้าวแก่ปอกเปลือกที่นำเข้าต้องผ่านการวิเคราะห์ความเสี่ยงศัตรูพืช

และต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติกักพืช รวมถึงประกาศกรมวิชาการเกษตร ที่เกี่ยวกับการนำเข้ามะพร้าว ปัจจุบันอนุญาตให้นำเข้าผลมะพร้าวแก่ปอกเปลือก เนื้อมะพร้าวสด เนื้อมะพร้าวแห้งจากมาเลเซีย เวียดนาม สหภาพเมียนมา และอินโดนีเซีย เพื่อการแปรรูป ในโรงงานอุตสาหกรรมเท่านั้น โดยในปี 2566 มีการนำเข้ารวมประมาณ 127,901 ตัน 1,178 ชิปเมนต์ มูลค่าประมาณ 1,139 ล้านบาท

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า สินค้ามะพร้าวเป็นสินค้าควบคุมตามกฎหมายที่กระทรวงพาณิชย์กำกับดูแล ได้กำหนดด่านนำเข้าเพียง 2 ด่าน คือ ด่านศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง และด่านศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ ดังนั้น การนำเข้าต้องแจ้งนำเข้า ณ ด่านตรวจพืชท่าเรือแหลมฉบัง และด่านตรวจพืชท่าเรือกรุงเทพ เท่านั้น บทบาทหน้าที่ของด่านตรวจพืชกรมวิชาการเกษตร นอกจากจะควบคุมการนำเข้า ณ ด่านที่กำหนดแล้ว

ยังได้สั่งการ ให้ด่านตรวจพืชทั่วประเทศทำงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่อื่น ๆ ได้แก่
กรมศุลกากร ด่านอาหารและยา หน่วยงานความมั่นคง และองค์กรปกครองในพื้นที่ เพื่อเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้ามะพร้าวแก่ปอกเปลือกจากประเทศเพื่อบ้าน ลดผลกระทบต่อเกษตรกร และอุตสาหกรรมการผลิตกะทิของไทย

อีกทั้ง นโยบายของ รมว.เกษตรฯ ที่สั่งการให้กรมวิชาการเกษตร เข้มงวดในการตรวจสอบ กักกัน และดำเนินคดีสินค้าเกษตรเถื่อนผิดกฎหมาย ซึ่งตนได้กำชับ ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ดำเนินการตามนโยบายอย่างเคร่งครัด โดย รมว.เกษตรฯ มีกำหนดลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดระยอง ในช่วงเดือนเมษายน เพื่อคุมเข้มคุณภาพผลไม้ภาคตะวันออก (ทุเรียน มังคุด ลำไย) และตรวจสอบมาตรฐาน GMP โรงคัดบรรจุ และมาตรฐาน GAP สวนผลไม้

เพื่อเตรียมพร้อมรับมือฤดูการส่งออกผลไม้คุณภาพภาคตะวันออกไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยสั่งการทีมพญานาคราชร่วมกับทีม สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร และจังหวัด ลุยตรวจเข้ม 100% หากตรวจพบทุเรียนอ่อน และผลไม้ไม่มีคุณภาพ สั่งยึดอายัดใบ GMP/GAP ทันที