กรมการค้าภายใน จับมือกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงมหาดไทย ระดมตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมันช่วงสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2567 ถึงวันที่ 13 เมษายน 2567 สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการน้ำมัน โดยเฉพาะเส้นทางท่องเที่ยวแต่ละภูมิภาค
วันที่ 5 เมษายน 2567 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า วันนี้กรมได้จัด “ชุดเฉพาะกิจตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมัน” ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่ประชาชนเดินหน้ากลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้น้ำมัน ซึ่งได้ออกปฏิบัติการ ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2567 ถึงวันที่ 13 เมษายน 2567
- ร้อนทะลุ-โลกเดือด “เอลนีโญ” ถึง “ลานีญา” ถล่มประเทศไทย
- ปิดโรงงานยอดเพิ่มเท่าตัว จับตาธุรกิจรถมือสองเสี่ยง
- กดเงินไม่ใช้บัตร ATM พุ่ง 3 เท่า แห่เปิดใช้ข้ามแบงก์-เพิ่มค่าฟี
การดำเนินการครั้งนี้ กรมได้ประสานความร่วมมือกับกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน และในส่วนภูมิภาคได้บูรณาการกับผู้ว่าราชการจังหวัด พาณิชย์จังหวัด และพลังงานจังหวัด ในการตรวจสอบความถูกต้องของหัวจ่ายสถานีบริการน้ำมัน ซึ่งเป็นการตรวจสอบซ้ำนอกเหนือจากการดำเนินการปกติของเจ้าหน้าที่สายตรวจชั่งตวงวัด
โดยชุดเฉพาะกิจนี้มุ่งเน้นตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันที่ตั้งอยู่บนถนนสายหลักที่ประชาชนเดินทางจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ออกสู่จังหวัดต่าง ๆ หรือเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างจังหวัด และพื้นที่ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในทุกภูมิภาค เช่น ถนนพหลโยธิน ที่มุ่งสู่ภาคเหนือ ถนนเพชรเกษม และถนนพระราม 2 ที่มุ่งสู่ภาคใต้ ถนนบางนา-ตราด ที่มุ่งสู่ภาคตะวันออก และถนนมิตรภาพ ที่มุ่งสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นต้น ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567 ได้มีการตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันแล้วรวม 4,315 สถานี 68,721 หัวจ่าย
อย่างไรก็ดี กรมแนะนำให้ประชาชนที่ใช้บริการสถานีบริการน้ำมันสังเกตเบื้องต้น ตู้จ่ายน้ำมันตามสถานีบริการว่ามีหนังสือสำคัญแสดงเครื่องหมายคำรับรองที่กรมการค้าภายในออกให้หรือไม่ มีการแสดงราคาขายต่อลิตรที่ตู้จ่ายหรือไม่ และราคาตรงกับที่แสดงไว้หน้าสถานีบริการหรือไม่
นอกจากนี้ ก่อนเติมยอดขายและจำนวนลิตรต้องเป็นเลขศูนย์ และเมื่อเติมเสร็จให้ดูยอดขายกับจำนวนลิตรให้ถูกต้องด้วย เพื่อรักษาสิทธิของตนเอง
กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมในการเติมน้ำมัน สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร.1569 แอปพลิเคชั่นไลน์ @MR.DIT หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ หากพบสถานีบริการใดใช้หัวจ่ายที่คลาดเคลื่อนหรือไม่มีเครื่องหมาย คำรับรอง มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และสถานีบริการใดดัดแปลงหัวจ่ายให้คลาดโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท
นายวุฒิทัต ตันติเวสส รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า ในส่วนของกรมได้สั่งการให้มีการตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมันของสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ โดยเฉพาะการแก้ไขดัดแปลงตู้หัวจ่ายน้ำมัน เป็นไปตามการได้รับอนุญาตหรือไม่ เพื่อความเป็นธรรมให้กับผู้ใช้ หากจะต้องมีการแก้ไขดัดแปลง จะต้องขออนุญาตมาที่กรม หากพบว่ามีการแก้ไขดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท
