“พาณิชย์”เปิดหมู่บ้านอินทรีย์ใหม่ปีนี้อีก 4 แห่ง มั่นใจเสริมทำเกษตรอินทรีย์-ขับเคลื่อนศก.ฐานราก

“พาณิชย์”เปิดหมู่บ้านอินทรีย์ใหม่ปีนี้อีก 4 แห่ง มั่นใจช่วยส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์และขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก เตรียมช่วยพัฒนาระบบการผลิต สร้างมาตรฐานสินค้า เพิ่มช่องทางการจำหน่าย และดันเป็นที่ท่องเที่ยว ส่วน 8 หมู่บ้านเดิม จะช่วยยกระดับให้มีความเข้มแข็งขึ้น ทั้งการขอรับรองมาตรฐานสากล หาที่จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ

น.ส.สุทัศนีย์ ราชเรืองระบิน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ทำการคัดเลือกหมู่บ้านอินทรีย์(Organic Valley) แห่งใหม่ของปีนี้เพิ่มอีก 4 แห่งใน 4 จังหวัด คือ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ จันทบุรี และเชียงราย หลังจากที่ได้ลงพื้นที่ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดออกตามค้นหาตามนโยบายของนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้เพิ่มจำนวนหมู่บ้านอินทรีย์ให้มีมากขึ้น เพื่อส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์ของไทย และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก

สำหรับหมู่บ้านเกษตรอินทรีย์แห่งใหม่ทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ 1.หมู่บ้านหนองเทา ต.สำโรง อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี 2.หมู่บ้านหนองเม็ก ต.คึมใหญ่ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ 3.หมู่บ้านซอง มู แฮง ต.คลองพลู อ.คิชฌกูฎ จังหวัดจันทบุรี และ 4.หมู่บ้านชุมชนบ้านใหม่พัฒนา ต.ศรีเมืองชุม อ.แม่สาย จ.เชียงราย

“จะเข้าไปให้ความช่วยเหลือ ให้คำแนะนำเกษตรกรให้มีความรู้ในการทำเกษตรอินทรีย์ ทั้งการพัฒนาระบบการเพาะปลูก การผลิต และช่วยผลักดันให้ได้มาตรฐานสินค้าเกษตรอินทรีย์ ส่วนในด้านตลาด กรมฯ จะช่วยเชื่อมโยงผลผลิต ทั้งการจำหน่ายในห้างที่เป็นพันธมิตรกับกรมฯ ฟาร์ม เอ้าท์เล็ต หรือร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่ปัจจุบันมีอยู่ถึง 4 หมื่นแห่ง จึงมั่นใจได้ว่าเมื่อผลิตออกมาแล้ว จะมีตลาดรองรับแน่นอน”น.ส.สุทัศนีย์กล่าว

ทั้งนี้ กรมฯ ยังจะผลักดันให้หมู่บ้านอินทรีย์ที่ตั้งขึ้น เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยจะช่วยทำการประชาสัมพันธ์และแนะนำให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชม เพื่อให้ไปเรียนรู้วิถีชีวิตของเกษตรกร การทำเกษตรอินทรีย์ ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น

สำหรับหมู่บ้านเกษตรอินทรีย์เดิม 8 แห่ง คือ หมู่บ้านริมสีม่วง จ.เพชรบูรณ์ 2.หมู่บ้านห้วยพลู จ.นครปฐม 3.หมู่บ้านโสกขุมปูน จ.ยโสธร 4.หมู่บ้านทัพไทย จ.สุรินทร์ 5.หมู่บ้านหนองสะโน จ.นครพนม 6.หมู่บ้านหนองหอย จ.ชัยภูมิ 7.หมู่บ้านท่าเดื่อน้อย จ.ลพบุรี และ 8.หมู่บ้านบ้านยางแดง จ.ฉะเชิงเทรา กรมฯ จะเข้าไปช่วยยกระดับและต่อยอดในทุกๆ ด้าน ทั้งการเพาะปลูก การผลิต และผลักดันให้มีการขอรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์สากลให้ได้เพิ่มขึ้น และจะช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ