“ฉัตรชัย” อัดงบกองทุน166ล้านซื้อหนี้เกษตรกรล็อตแรก 871 ราย เร่งเช็กชื่อค้าง1.2 แสนราย คาดเสร็จ15ก.ย.นี้

ฉัตรชัยอัดงบกองทุน 166 ล้านบาท ซื้อหนี้เกษตรกรล็อตแรก 871 ราย เร่งเช็กชื่อค้าง 1.2 แสนราย คาดเสร็จ15ก.ย.นี้

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเฉพาะกิจ ว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดการหนี้ของเกษตรกรของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ตามที่คณะอนุกรรมการจัดทำหลักเกณฑ์การจัดการหนี้ของเกษตรกร กรณีหนี้เร่งด่วนเสนอ ซึ่งมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน โดยมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่ปรับลดจากเดิม 56 ข้อ เหลือเพียง 36 ข้อ เพื่อทำให้ประสิทธิภาพการทำงานมีความรอบคอบ แต่คล่องตัวมากขึ้นนอกจากหลักเกณฑ์เดิมที่ต้องเป็นหนี้ที่มีสถานะผิดนัดชำระหนี้ขึ้นไป

โดยจัดลำดับความเร่งด่วนในให้ความช่วยเหลือ 4 ระดับ คือ 1.หนี้ถูกฟ้องล้มละลาย 2.หนี้ถูกบังคับคดีหรือประกาศขายทอดตลาด 3.หนี้ถูกดำเนินคดี และ 4.หนี้ผิดนัดชำระหนี้แล้ว หลักเกณฑ์ใหม่ยังเน้นว่าเกษตรกรที่มีคุณสมบัติที่สมควรให้ความช่วยเหลือและได้รับพิจารณาเป็นอันดับแรก คือ เป็นผู้มีรายได้น้อยกว่า 1 แสนบาท/ปี ถูกฟ้องล้มละลาย หรือเป็นผู้สูงอายุที่ไม่มีลูกหลานในวัยทำงานดูแล เป็นต้น

ดังนั้นหลังจากลงนามในหลักเกณฑ์ของคณะอนุกรรมการจัดทำหลักเกณฑ์การจัดการหนี้ของเกษตรกรที่แล้ว ก็จะนำมาใช้พิจารณาซื้อหนี้จากเกษตรกร โดยคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง ตรวจสอบและยืนยันข้อมูลหนี้เกษตรกร จะดำเนินการตรวจสอบรายชื่อเกษตรกรกลุ่มเป้าหมายตามขั้นตอน ซึ่งจากการรายงานผลการดำเนินงานจากการตรวจสอบข้อมูลหนี้สินเกษตรกรทั้งประเทศจำนวน 465,925 ราย พบว่า มีเกษตรกรที่มาแสดงตัว 245,052 ราย โดยเกษตรกรที่มาแสดงตัวแจ้งความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนฯ จำนวน 125,301 ราย ที่เหลือไม่ประสงค์รับการช่วยเหลือ

โดยในกลุ่มที่ขอรับความช่วยเหลือนั้นคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ ได้ตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว พบว่า มีข้อมูลครบถ้วนจำนวน 64,748 ราย ที่เหลืออยู่ระหว่างตรวจสอบ โดยในส่วนที่ตรวจสอบแล้ว แบ่งเป็น 3 กลุ่มด้วยกัน คือ 1.กลุ่มที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรยินยอมให้ชำระหนี้แทนเกษตรกร จำนวน 871 ราย จาก 2,369 สัญญา มูลหนี้ประมาณ 166 ล้านบาท 2. อยู่ระหว่างจำแนกสถานะหนี้ 58,587 ราย และ 3.จัดการหนี้ได้ตามเกณฑ์ กฟก. 5,261 ราย ซึ่งข้อมูลนี้จะทำให้เราจัดการหนี้ตามความจำเป็นเร่งด่วน โดยเบื้องต้นคาดว่ากลุ่มที่จะเริ่มดำเนินการโดยใช้งบประมาณของ กฟก.ได้ทันที จำนวน 871 ราย ซึ่งคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง ตรวจสอบและยืนยันข้อมูลหนี้เกษตรกรจะกลับไปพิจารณารายละเอียด และนำเสนอที่ประชุมครั้งต่อไป รวมถึงการสำรวจข้อมูลหนี้ให้แล้วเสร็จจากกลุ่มที่แจ้งความประสงค์ที่ยังเหลือจากจำนวนทั้งหมด 125,301 ราย คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณ 15 กันยายนนี้

“ตามที่คณะอนุกรรมการจัดทำหลักเกณฑ์การจัดการหนี้ของเกษตรกรกรณีหนี้เร่งด่วน ซึ่งมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานเสนอ โดยมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่ปรับลดจากเดิม 56 ข้อ เหลือเพียง 36 ข้อ เพื่อทำให้ประสิทธิภาพการทำงานมีความรอบคอบ แต่คล่องตัวมากขึ้น และจัดลำดับความเร่งด่วนในให้ความช่วยเหลือ

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติอนุมัติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเจรจาซื้อหนี้จากสถาบันการเงินที่มีสถานะเป็นเจ้าหนี้ เพื่อทำหน้าที่ดำเนินการเจรจากับสถาบันการเงินต่างๆ ที่เป็นเจ้าหนี้ ที่จะต้องมีการหารือร่วมกันในเงื่อนไขและแนวทางปฏิบัติต่างๆ โดยองค์ประกอบของอนุกรรมการฯ ชุดนี้ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงการคลัง กระทรวงยุติธรรม และคสช. เป็นต้น โดยจะยกร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าวโดยเร็วต่อไป