“CPF-เบทาโกร” ระเบิดศึก ตลาดไส้กรอก 3 หมื่นล้านเดือด

ปัจจุบันคนไทยบริโภคไส้กรอกเฉลี่ย 5 กก.ต่อคนต่อปี น้อยกว่าชาวยุโรปซึ่งบริโภคที่ 20 กก.ต่อคนต่อปีถึง 3 เท่า แต่ตลาดไส้กรอกซึ่งมีมูลค่า 32,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ยปีละ 1-2% ก็มีการแข่งขันอย่างดุเดือดในทุกเซ็กเมนต์

ตลาดไส้กรอกแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ ตลาดไส้กรอกพรีเมี่ยมที่มีราคาขาย กก.ละ 400 บาทขึ้นไป สัดส่วน 6% หรือ 1,920 ล้านบาท ไส้กรอกเกรด A ราคาขาย กก.ละ 200-400 บาทต่อสัดส่วน 45% หรือ 14,400 ล้านบาทซึ่งกลุ่มนี้จะมีอัตราการขยายตัวสูงสุด และไส้กรอกระดับกลาง-ล่าง ราคาขาย50-200 บาทต่อกิโลกรัม สัดส่วน 49% หรือประมาณ 15,680 ล้านบาท

เปิดไตรมาส 2 “เครือเบทาโกร” รุกทำตลาดอย่างหนัก โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดไส้กรอกเกรดพรีเมี่ยม และเกรด A ไส้กรอกรมควัน ซึ่งเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง โดยใช้ซูเปอร์สตาร์ “พี่โป๊ป-ธนวรรธน์” เป็นพรีเซ็นเตอร์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 พร้อมเปิดตัวแคมเปญไส้กรอกเบทาโกร ชีส ซีรีส์ ยืดให้สุด อร่อยไม่มีสะดุด เน้นสร้างความโดดเด่นให้ไส้กรอกชีส 6 รสชาติ และกิจกรรมมีตแอนด์กรี๊ด ลุ้นโชคไอโฟน หวังขยับมาร์เก็ตแชร์เพิ่มจากปัจจุบันที่ครองแท่นเบอร์ 2

ขณะที่ฝั่ง “ซีพีเอฟ” เจ้าตลาด วางโพซิชั่นให้ “บุชเชอร์” เป็นตัวหลักในการเข้าแข่งขันกับไส้กรอบแบรนด์พรีเมี่ยมอื่น ๆ หลังจากเปิดตัวไปเมื่อ 5 ปีก่อนโดยใช้ อารยา เอ ฮาร์เก็ต เป็นพรีเซ็นเตอร์ “บุชเชอร์” สามารถสร้างยอดขายเป็นผู้นำในตลาดไส้กรอกพรีเมี่ยมได้ โดยครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 30% และเติบโตเฉลี่ยปีละประมาณ 2%

มาปีนี้ได้รีลอนช์บุชเชอร์อีกครั้งโดยอัดงบประมาณทำการตลาด 30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งมีไม่ถึงครึ่ง รุกทำการตลาดทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมเปลี่ยนพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ เป็น “นนท์ ธนนท์” นักร้องที่ชนะการประกวดรายการเดอะวอยซ์มาร่วมแสดงหนังสั้นแนวสืบสวนสอบสวน “บุชเชอร์ ปริศนาความอร่อย” และเพิ่มกิจกรรมการตลาด โปรโมชั่นส่งเสริมการขายโดยให้ผู้บริโภคซื้อบุชเชอร์ ครบ 200 บาท จับสลากลุ้นรางวัล และจะมีกิจกรรมแฟนมีตติ้งร่วมกับนนท์ ซึ่งจะเริ่มในเดือนกรกฎาคมนี้

“นายวิทวัส ตันติเวสส” รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ด้านการตลาดกลาง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ปัจจุบันซีพีเอฟมีผลิตภัณฑ์ไส้กรอกที่หลากหลายแบรนด์ เพื่อให้ตอบสนองผู้บริโภคทุกเซ็กเมนต์ “ตลาดระดับพรีเมี่ยมแม้ว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดน้อย เพียง 6% แต่ก็มีมูลค่าเฉลี่ยต่อหน่วยค่อนข้างสูง ในปีนี้ซีพีเอฟตั้งเป้าหมายว่าจะเพิ่มยอดขายบุชเชอร์ให้เติบโต 25% และครองมาร์เก็ตแชร์ตลาดไส้กรอกระดับพรีเมี่ยมต่อไป จึงได้รีลอนช์บุชเชอร์ใหม่”

โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงความต้องการของผู้บริโภค คงคุณภาพและลักษณะเด่นของไส้กรอกที่มีผิวสัมผัสแบบเนื้อบดหยาบ หนังที่บางกรอบมากยิ่งขึ้น ปรับปรุงแพ็กเกจใหม่ 3 รสชาติ ทั้งรสต้นตำรับ(ชไวเวิร์สท) รสพริก (ชไวเวิร์สท ชิลลี่)และรสชีส (ชีสเวิร์สท) โดยคงราคาเดิม และได้เพิ่มดิสทริบิวชั่นเซ็นเตอร์ โดยเฉพาะยอดขายผ่านช่องทางหลักอย่างเซเว่นอีเลฟเว่น ที่มีสัดส่วนถึงกว่า 49% ให้มากขึ้น และมีช่องทางผ่านแม็คโคร และห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่าง ๆ

ขณะที่ตลาดเกรดเอที่มีการเติบโตสูง ก็จะมีแบรนด์อื่น เช่น แบรนด์ซีพีเอฟ ซึ่งโดยปกติจะขายราคาต่างกัน 15% จากบุชเชอร์

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของตลาดไส้กรอกในปีนี้มีปัจจัยสำคัญมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีนัก ผู้บริโภคอาจจะระมัดระวังการใช้จ่าย การดึงพรีเซ็นเตอร์หรือเพิ่มกิจกรรมส่งเสริมการตลาดก็จะช่วยในแง่ของการรักษามาร์เก็ตแชร์

แต่ประเด็นสำคัญ คือ การขยายฐานตลาดผู้บริโภคไส้กรอกจาก 5 กก.ต่อคนต่อปี ให้ขยับขึ้นไปอีก ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องท้าทายของทุกค่ายไม่น้อย

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลยพิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat 

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!