คน. ชน ห้างค้าปลีก ขึ้นราคา “ปาล์มขวด” ช่วยชาวสวน

ประเด็นที่กรมการค้าภายในขอความร่วมมือผู้ประกอบการจำหน่ายน้ำมันปาล์มบรรจุขวดเลิกทำโปรโมชั่นลดราคา และให้จำหน่ายสินค้าในราคาที่สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง กลายเป็นประเด็นร้อนในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นการดูแลแบบเกาไม่ถูกที่คัน

สะท้อนว่าการดูแลค่าครองชีพของประชาชน ภายใต้การดูแลของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ยังคงเป็นภารกิจร้อนที่รัฐบาลใหม่ต้องวางตัว “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์” ที่เชี่ยวชาญ เข้ามาแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการดูแลภาคการผลิต และการดูแลประชาชนผู้บริโภค โดยเฉพาะการสานต่อการดูแลราคาปาล์มน้ำมันในเดือนกรกฎาคม 2562 จะเป็นช่วงที่ผลผลิตปาล์มน้ำมันออกสู่ตลาดอีกครั้ง”

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) อธิบายว่า เหตุผลสำคัญในการขอความร่วมมือให้จำหน่ายให้สอดคล้องต้นทุนนั้น เป้าหมายเพื่อต้องการช่วยเหลือเกษตรกร เพราะหากขายในราคาถูกมากอาจไปกดดันให้ผลปาล์มยิ่งราคาถูก

ดังนั้นจึงขอให้จำหน่ายในราคาที่สอดคล้องกับต้นทุนการผลิต เช่น ผลปาล์มราคา 3 บาทต่อ ก.ก. สะท้อนน้ำมันปาล์มดิบราคา 17.23 บาทต่อ ก.ก. จะทำให้ราคาน้ำมันปาล์มขวดจำหน่ายในราคา 31.25 บาทต่อขวด 1 ลิตร โดยกรมการค้าภายในจะแสดงราคาจำหน่ายนี้ไว้ที่หน้าเว็บไซต์ของกรม

ทั้งนี้ การดูแลผลผลิตสินค้าเกษตรเป็นสินค้าตามฤดูกาล และยังมีปัจจัยจากตลาดต่างประเทศที่เข้ามากระทบด้วย ที่ผ่านมารัฐบาลออกนโยบายเพื่อดูแลสินค้าเกษตรให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เช่น การแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ ซึ่งเป็นจากสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบที่ล้นกว่า 400,000 ตัน จากภาวะตลาดโลกซบเซา ประกอบกับปริมาณผลปาล์มที่มีออกมาถึง 20 ล้านตัน ฉุดให้ราคาปาล์มน้ำมันลดลง กระทั่งคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) มอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เข้ารับซื้อน้ำมันปาล์มดิบเพื่อนำไป

ผลิตไฟฟ้า รวมถึงการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ B20 รวมกว่า 220,000 ตัน ทำให้ปริมาณสต๊อกน้ำมันปาล์มลดลงเหลือ 250,000 ตัน ช่วยดึงราคาผลปาล์มขยับจาก กก.ละ 2.20 บาท เป็น 3.50 บาท และราคาน้ำมันปาล์มดิบขยับขึ้นเป็น กก.ละ 20 บาท สูงกว่าราคาน้ำมันปาล์มดิบมาเลเซียที่อยู่เพียง กก.ละ 16 บาท มาตรการดูแลปาล์มน้ำมันระยะยาวยังต้องเดินหน้าต่อ “กรมการค้าภายใน” เตรียมเสนอคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ทบทวนยุทธศาสตร์

ปฏิรูปปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มทั้งระบบ การผลักดันมาตรฐานทะลายปาล์มและลานเทให้เป็นมาตรฐานบังคับ การเร่งทบทวนร่างพระราชบัญญัติปาล์มน้ำมันและผลิตภัณฑ์จากปาล์มน้ำมัน ให้มีผลใช้บังคับโดยเร็วเพื่อปฏิรูปอุตสาหกรรมปาล์มทั้งระบบ

นอกจากนี้ การดูแลราคาสินค้าเกษตรซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการค้าภายในแล้ว “นโยบายการดูแลค่าครองชีพ” ถือเป็นหนึ่งในนโยบายที่สำคัญมากในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากรายได้จากการส่งออก การลงทุน และการท่องเที่ยว”

ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินโครงการร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ เพื่อจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นให้ประชาชนที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทั้งยังต่อยอดให้เป็น “ช่องทาง” จำหน่ายสินค้าที่ผลิตจากชุมชน สินค้า OTOP เพื่อยกระดับให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้น

โดยตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2561 ถึง 26 พ.ค. 2562 มีร้านธงฟ้าประชารัฐทั้งสิ้น 60,873 ร้านค้า มียอดการใช้จ่าย รวม 64,775.99 ล้านบาท แบ่งเป็น การใช้จ่ายผ่านร้านค้าที่ติดตั้งเครื่อง EDC รวม 61,973.92 ล้านบาท และร้านค้าที่ติดตั้งแอปพลิเคชั่นถุงเงินประชารัฐรวม 2,402.65 ล้านบาท แต่ทว่าการดำเนินโครงการนี้จะต่อเนื่องหรือไม่ ยังขึ้นอยู่กับคณะรัฐบาลชุดใหม่

อาจกล่าวได้ว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างมากของรัฐบาลใหม่ ไม่เพียงการรักษาเสถียรภาพราคา ยกระดับรายได้เกษตรกร แต่การดูแลภาระค่าครองชีพในช่วงครึ่งปีหลัง ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงรุมเร้าทั้งต้นทุนวัตถุดิบ ค่าแรงงาน ค่าโดยสารที่ขยับสูงขึ้น ดังนั้น ความยากลำบากสเต็ปต่อไปจึงอยู่ที่การกำหนดนโยบายที่บาลานซ์ผลประโยชน์ทุกกลุ่ม ไม่ให้ซ้ำรอยเคสห้ามโปรโมชั่นปาล์มขวดอย่างไร