30 ม.ค.ไทยแจงข้อมูลผลกระทบนำเข้าหมูสหรัฐ หลังถูกกดดันหนักแลกจีเอสพี

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รมว.พาณิชย์
แฟ้มภาพ

30 ม.ค.ไทยแจงผลกระทบสุขภาพหลังสหรัฐกดดันหนักให้นำเข้าหมูแลกจีเอสพี-“ปศุสัตว์”ชี้ไทยกินหมูดิบ-ใส้-เลือด มีสารเร่งเนื้อแดงอันตรายต่อสุขภาพ

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2563 ที่ผ่านมา คณะทำงานร่วมไทย-สหรัฐอเมริกา มีการหารือในการเปิดตลาดเนื้อสุกร โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งขึ้นเพื่อร่วมหาข้อสรุปก่อนไปเจรจากับ สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (ยูเอสทีอาร์)ที่จะเปิดรับฟังความเห็นของประเทศคู่ค้า ในวันที่ 30 ม.ค.2563 ที่สหรัฐอเมริกาก่อนพิจารณาตัดสิทธิพิเศษภาษีศุลกากรสินค้า (จีเอสพี) ของไทยในเดือนเม.ย.2563

โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ต้องเดินทางไปให้ข้อมูลกับ ยูเอสทีอาร์ ประกอบด้วย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงต่างประเทศ และกระทรวงสาธารณสุข ที่ร่วมเป็นคณะทำงาน จะนำข้อสรุปและผลการวิจัย ผลกระทบของสารสารแรตโตพามีน หรือสารเร่งเนื้อแดงในสุกร หากไทยให้มีการนำเข้าหมูของสหรัฐอเมริกา ซึ่งผลการหารือครั้งนี้ เพื่อกำหนดท่าทีในการเจรจา ผลกระทบต่อการบริโภคสุกรที่มีสารเร่งเนื้อแดง

สำหรับรายละเอียดของการหารือ มีดังนี้ คือ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นำเสนอข้อมูลด้านสุขภาพ เกี่ยวกับสารแรตโตพามีน หรือสารเร่งเนื้อแดงในสุกรและค่ารักษาพยาบาล หากมีการรับสารเร่งเนื้อแดงเข้าไป สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.)นำเสนอความเสี่ยงการตกค้างของสารแรตโตพามีน ในเนื้อและผลิตภัณฑ์สุกร จากผลการวิจัยของประเทศไทย

กระทรวงพาณิชย์เสนอผลกระทบจากการถูกตัดสิทธิพิเศษภาษีศุลกากรสินค้า (จีเอสพี) กรณีเปิดตลาดสุกร มูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น อุตสาหกรรมใดบ้างที่ได้รับผลกระทบ การค้าการลงทุน และประเมินยความเสียหายต่อภาคเกษตรไทย หากเปิดตลาดให้มีการนำเข้าสุกรจากสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม คณะทำงานไทยและสหรัฐอเมริกาได้หารือกันในเรื่องนี้นำเข้าหมูสหรัฐ ตามคำสั่งรองนายกรัฐมนตรี เพื่อหาข้อสรุป ในการเปิดตลาดนำเข้าหมูสหรัฐอเมริกา มาหลายครั้ง ดังนั้นในเวทีของประเทศไทย ต้องรอบคอบ ยึดประโยชน์ของไทยเป็นที่ตั้ง ต้องพิจารณาผลกระทบที่จะเกิดขึ้น หากมีการนำเข้า แต่ในสหรัฐอเมริกามีการใช้สารเร่งเนื้อแดงจำนวนมาก หากข้อตกลงที่สามารถทำได้ อาจเป็นการรับรองฟาร์มที่ไม่มีการใช้สารเร่งเนื้อแดง และฟาร์มนั้นก็สามารถนำเข้ามาประเทศไทยได้ ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อผู้ประกอบการไทย

โดยล่าสุด นายสรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ในวันที่ 30 ม.ค.นี้ กรมปศุสัตว์ ในฐานะเลขานุการคณะทำงานร่วมไทย-สหรัฐอเมริกา ในการเปิดตลาดเนื้อสุกร จะหารือกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับการเปิดตลาดสุกรให้กับสุกรของสหรัฐอเมริกา ซึ่งที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์ ได้ทำหนังสือถึงสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (ยูเอสทีอาร์) ที่จะมีการทบทวนการตัดจีเอสพีไทย โดยชี้แจงความจริงเกี่ยวกับการนำเข้าสุกรของสหรัฐอเมริกา ว่าจะกระทบต่อสุขภาพของไทย เพราะไทยเป็นประเทศที่ไม่ให้มีการใช้สารเร่งเนื้อแดง

“การเดินทางไปเจรจากับสหรัฐอเมริกาครั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯคงยืนยันตามเดิม ว่าหมูของสหรัฐที่ใช้สารเร่งเนื้อแดงในการเลี้ยง ผลการวิจัย และศึกษาผลกระทบของไทย พบว่า เป็นอันตรายกับคนไทย เพราะพฤติกรรมการกินหมูของไทย นอกจากกินเนื้อ ยังมีการกินเลือด กินไส้ กินเครื่องใน หรือบางพื้นที่ยังกินดิบๆอีก ดังนั้นหากมีการนำเข้ามาก็จะส่งผลต่อสุขภาพคนไทยในระยะยาวแน่นอน”