‘ไวรัสโคโรน่า’หนัก ผู้นำเข้าแห่ตุนสต๊อก สมาคมส่งออกข้าวฯ มั่นใจรักษาเป้า 2563 ได้ 7.5 ล้านตัน

นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ผู้ส่งออกประเมินการส่งออกข้าวไทยในปี 2563 นี้ 7.5  แสนตัน หรือมีมูลค่าประมาณ 4,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ ขณะที่ การคาดการณ์ของกระทรวงเกษตร ของสหรัฐอเมริกา หรือ USDA  โดยประเมินไว้ อินเดีย จะส่งออกข้าวได้ 12 ล้านตัน ส่วนไทยส่งออกข้าวได้ 7.5 ล้านตัน เวียดนาม ส่งออกข้าวได้ 7 ล้านตัน

โดยปัจจัยที่กระทบต่อการส่งออก ยังคงเป็นค่าเงินบาทที่แข็งค่า แม้ขณะนี้ จะอ่อนค่าลง แต่กลับทำให้ผู้ซื้อกังวลกับความผันผวนเพราะมีการปรับขึ้น-ลงเร็ว จึงอยากให้ค่าเงินมีเสถียรภาพมากกว่านี้  ปัญหาภัยแล้ง รวมทั้งหลายประเทศเริ่มผลิตข้าวเอง โดยเฉพาะจีน ที่กลับมาเป็นคู่แข่งในตลาดค้าข้าว จากในปีนี้จากสต๊อกในประเทศ ถึง 120 ล้านตัน ที่สามารถใช้ได้อีก 2 ปีโดยที่ไม่ต้องปลูกใหม่  คุณภาพข้าวไทย ไม่ได้รับการพัฒนามายาวนาน มีเฉพาะข้าวพันธุ์พื้นแข็ง แต่หลายประเทศ นิยมข้าวนิ่ม ทำให้มีข้าวจากประเทศอื่นมาทดแทนข้าวไทยในทุกตลาด อย่างไรก็ดีแม้ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันเร่งพัฒนาพันธุ์ข้าว แต่ต้องใช้เวลา 3- 5 ปีกว่าที่จะสามารถทำตลาดได้

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ปีนี้ไทยยังมีปัจจัยบวกอยู่บ้างจากตลาดอินโดนีเซีย ที่น่าจะกลับมาสั่งซื้อข้าวมากขึ้น เพราะสต๊อกในประเทศเริ่มลดลง ซึ่งคาดว่าน่าจะนำเข้าข้าวในปีนี้ ประมาณ 1 ล้านตัน ที่คาดว่าไทยจะได้รับประโยชน์ และการระบาดของไวรัสโคโรนา ส่งผลให้มีการซื้อข้าวกักตุนและบริโภคในบ้านเยอะขึ้นทั้งในฮ่องกง และสิงคโปร์

สำหรับในปีที่ผ่านมา ไทยส่งออกข้าว ได้เพียง 7.58  ล้านตัน ในรอบ 6 ปี ลดลงจากปี 2561 ที่ส่งออกได้ถึง 11 ล้านตัน ถือว่าต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2555 ที่ส่งออกได้ประมาณ 6.6 ล้านตัน และในเดือนมกราคมของปี 2563 นี้ ไทยส่งออกได้เพียง 5.7  แสนตัน ลดลดงถึง 40% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน  และเพื่อให้การส่งออกได้ขยายตัวตามเป้าหมายมองว่าทุกหน่วยงานรัฐจะต้องเร่งในเรื่องของการส่งเสริมพัฒนาพันธุ์ข้าวรวมไปถึงเรื่องของการเร่งผลผลิตต่อไร่ให้มากขึ้นโดยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้