เศรษฐกิจในประเทศ

ต่อยอด “นาแปลงใหญ่” สู่นวัตกรรมเครื่องสำอางข้าว

สแกนนาแปลงใหญ่ภาคกลางตอนล่างกรมการข้าวเร่งปรับแผนวิจัยและพัฒนาสู้ตลาดโลก ดันวิสาหกิจชุมชนแปรรูปข้าว by product ร่วมกับ startup คนรุ่นใหม่ ด้าน บ.ขวัญข้าว ต่อยอดงานวิจัยเครื่องสำอางจากน้ำมันรำข้าวป้อนตลาดออนไลน์ยอดขายดีสวนวิกฤตโควิด

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” กล่าวว่าปัญหาการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวกำลังเป็นปัญหาหลักที่กระทบต่อการส่งออกข้าวกรมการข้าวจึงได้ลงพื้นที่สำรวจโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ที่จ.กำแพงเพชร และ จ.นครสวรรค์ ระหว่างวันที่ 2-3 กรกฎาคม 2563 เพื่อประเมินสถานการณ์การผลิตและการพัฒนาต่อยอดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ

นางสาวสมจิตร โพธิวิจิตร ประธานศูนย์นาแปลงใหญ่ตำบลห้วยน้ำหอม อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์กล่าวว่า จุดอ่อนเมล็ดพันธุ์ที่ใช้จากการที่เกษตรกรส่วนใหญ่เก็บเมล็ดพันธุ์ไว้เองต่อเนื่องเป็นเวลานานหลายฤดู ทำให้เมล็ดข้าวขาดคุณภาพและผลผลิตลดลง และใช้ต้นทุนในการผลิตสูงขึ้น มีการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งขณะนี้กรมการข้าวได้อบรมเกษตรกรปรับเปลี่ยนการปลูกข้าวและช่วงการปลูกข้าว สามารถเพิ่มผลผลิตข้าวและคุณภาพในการสีข้าวจากแต่เดิมข้าวเปลือก 1 ตัน สีแปรได้ข้าวสาร 400 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นถึง 550 กิโลกรัมส่งผลดีกับสมาชิกซึ่งมี 169 รายพื้นที่ 4,984 ไร่

ขณะที่นายทฤษฎี เพชรมะลิ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปลงนาสะอาดกล่าวว่า เดิมที่ขายข้าวตามฤดูกาล ปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนมาพัฒนาข้าวแปรรูปจากการอบรมของกรมการข้าวให้มีการต่อยอดงานวิจัยและพัฒนาข้าวไทยจึงได้เริ่มทำน้ำมันรำข้าว สบู่ก้อน แชมพูครีมอาบน้ำ โลชั่น ครีมบำรุงผิว นำปลายข้าวมาแปรรูปเป็นแป้งเพื่อทำเส้นก๋วยเตี๋ยวขนมครก คุกกี้ แบบเกษตรอินทรีย์ เพื่อเพิ่มผลผลิตโดยมีเป้าหมายผลิตข้าวคุณภาพ โภชนาการสูง ไม่มีสารตกค้าง ใช้ทุกส่วนจากข้าวให้เกิดประโยชน์สูงสุด

นอกจากจุดแข็งของพันธุ์ข้าว ปลอดสารแปลงนาอินทรีย์แล้ว ยังมีการประกันราคาข้าวให้แก่สมาชิกในราคาสูง 12,000 บาท/ตัน ประกันรายได้ของกลุ่มจากการแปรรูป 300,000 บาทต่อเดือน สามารถเพิ่มรายได้ให้สมาชิกจากการขายข้าวเดิม โดยเราได้รับงบประมาณวิจัยจากกรมการข้าว 400,000 บาททุนส่วนตัว 6 ล้านบาท และได้ผลักดันให้สมาชิกกลุ่มคนรุ่นใหม่นำเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ในแปลงนา และสร้างห้องเรียนออนไลน์

“ก่อนหน้านี้จีนสนใจเข้ามาซื้อข้าวจำนวนมาก แต่ทางวิสาหกิจยังไม่พร้อมวอลุ่มใหญ่จึงคิดว่าควรพัฒนาเพิ่มมูลค่า ซึ่งเมื่อทำแล้วพบว่ามีรายได้มากกว่า 10 เท่าข้าวไทยดีแต่ขาดเงินทุนต่อยอด เราไม่ได้ต้องการแค่ฉลาก อย. แต่อยากได้มาตรฐานสากลเพื่อส่งออก”

นางดาวใจ ศรลัมพ์ ผู้จัดการบริหาร บริษัท ขวัญดาว โปรเจ็ค จำกัด กล่าวว่า บริษัทเห็นปัญหาผลผลิตทางการเกษตรจึงได้วิจัยผลผลิต by product จากข้าวอินทรีย์ร่วมกับกรมการข้าวและวิสาหกิจชุมชนแปลงนาสะอาด ผลิตสินค้าตามเทรนด์การบริโภคที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น จึงได้นำข้าวมาพัฒนาเป็นผลิตเครื่องสำอาง และจัดทำแพ็กเกจจิ้งจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เฟซบุ๊กNa Ha Thai มีรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ500,000 บาท