“สุริยะ” จีบแคนาดาลงทุน EEC หนุนสมาร์ทฟาร์มมิ่งในไทย

“สุริยะ” หารือทูตแคนาดา สร้างความเชื่อมั่นหวังกระตุ้นการลงทุนจากต่างชาติ พร้อมเปิดทาโครงการร่วมลงทุน PPP ดันลงทุนอีอีซีเพิ่ม เตรียมประชุมพีพีพี พ.ย.นี้ อัพเดทเศรษฐกิจไทยหลังวิกฤตโควิด-19

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังให้ นางซาราห์ เทเลอร์ เอกอัครราชทูตวิสามัญ ผู้มีอำนาจเต็มแห่งแคนาดาประจำประเทศไทย เข้าพบหารือในวาระเข้าดำรงตำแหน่งใหม่ โดยมีประเด็นหารือที่สำคัญ ได้แก่ การเชิญชวนให้นักลงทุนแคนาดา เข้ามาลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีสิทธิประโยชน์สำหรับการลงทุนที่น่าสนใจ รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพ

พร้อมกับได้หารือเกี่ยวกับโอกาสในการสร้างความร่วมมือกันในอนาคต เนื่องจากแคนาดาเป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรรายใหญ่เช่นเดียวกับประเทศไทย โดยสินค้าที่ผลิตมีความแตกต่างกัน แต่เชื่อว่าจะสามารถส่งเสริมซึ่งกันและกันได้ โดยแคนาดาจะสามารถแบ่งปันข้อมูล ประสบการณ์ และความรู้ให้ไทยได้

“ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีการผลิตสินค้าเกษตร ก็เพื่อให้ไทยได้รับองค์ความรู้ในด้านต่างๆ เพิ่มขึ้น เช่น การทำสมาร์ทฟาร์มมิ่งและออแกนิกฟาร์มมิ่ง รวมถึงช่วยให้ไทยสามารถประยุกต์ ไปสู่การแปรรูปอาหารและกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น อุตสาหกรรมการเกษตรถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทยที่แคนาดามีความเชี่ยวชาญ และไทยต้องการเชิญชวนมาลงทุน โดยเน้นการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง”

นอกจากนี้ ยังมีการหารือกันถึงการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (พีพีพี) โดยแคนาดามีการจัดประชุมด้านการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนขนาดใหญ่เป็นประจำทุกปีในช่วงเดือน พ.ย. ซึ่งปี 2563 นี้ ก็จะจัดในช่วงเวลาเดียวกัน แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิดคาดว่าในปีนี้จะจัดการประชุมเป็นแบบออนไลน์ ซึ่งการประชุมพีพีพีเป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์ในการจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อสนับสนุนโครงการสิ่งก่อสร้างพื้นฐานและโครงการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะที่รัฐบาลทั่วโลกรวมทั้งไทยจำเป็นต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

ในปัจจุบันการร่วมลงทุนแบบพีพีพีเป็นประเด็นที่น่าสนใจและสำคัญมาก โดยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้มีการร่วมลงทุนโครงการในลักษณะพีพีพีเป็นจำนวนมาก เนื่องจากภาครัฐไม่สามารถลงทุนได้เองทั้งหมด ขณะเดียวกันภาคเอกชนยังมีประสิทธิภาพการทำงานในระดับสูงด้วย และจะเป็นประโยชน์หากไทยได้เรียนรู้ประสบการณ์จากแคนาดามากขึ้น

สำหรับในประเทศไทย กระบวนการเกี่ยวกับพีพีพีค่อนข้างมีความซับซ้อนเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน และใช้เวลาในการดำเนินการยาวนาน แต่ปัจจุบันมีความพยายามในการลดขั้นตอนของโครงการลงทุนขนาดเล็กลง โดยที่ผ่านมาโครงการอีอีซีมีการประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนกับเอกชนหรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนของโครงการเมกะโปรเจคต่างๆ ซึ่งพบว่าผลการประมูล ทำให้ภาครัฐได้ประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากผู้ที่ชนะการประมูลซึ่งเป็นเอกชนให้ผลประโยชน์ต่อภาครัฐเป็นอย่างมาก

ขณะเดียวกันได้มีการหารือถึงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเป็นอย่างมาก โดยภายหลังการหารือฝ่ายแคนาดาได้รับทราบแนวทางของประเทศไทยในการป้องกันการระบาดในระยะที่ 2 และการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับทางแคนาดาเป็นอย่างมาก