OR ลั่นเป้าลงทุน 5 ปี ยังตามแผน 7.46 หมื่นล้าน หลังครึ่งปี’64 โกยกำไร 100%

OR ลั่นเป้าลงทุน 5 ปี ยังใช้งบตามแผน 7.46 หมื่นล้านบาท ลั่นปรับ EBIDA รายได้กำไรมาจากสัดส่วนจากนอน-ออยล์มากขึ้น แง้มแผน M&A ปีนี้มีมากกว่า 10 ดีล พร้อมเผยครึ่งปีแรกโกยกำไร 7.2 พันล้านบาท โตกว่า 100%

วันที่ 19 สิงหาคม 2564 นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า บริษัทยังคงตั้งเป้างบลงทุนในช่วงระยะเวลา 5 ปี (2564-2568) อยู่ที่ประมาณ 74,600 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสัดส่วนการลงทุนของธุรกิจน้ำมัน 34.6% ธุรกิจที่ไม่ใช้นน้ำมัน (นอน-ออยล์) 28.6% ธุรกิจในต่างประเทศ 21.8% และในกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ อีก 15% ซึ่งการลงทุนในอนาคตอาจจะเน้นสัดส่วนไปที่ธุรกิจนอน-ออยล์ เนื่องจากมีโอกาสในการเติบโตสูงกว่า

จิราพร ขาวสวัสดิ์

ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับกำสัดส่วนไรก่อนการหักภาษี ดอกเบี้ย และค่าเสื่อมราคา (EBIDA) ที่จะเปลี่ยนไปในช่วง 5 ปี จะเห็นว่าบริษัทตั้งเป้าจากธุรกิจนอน-ออยล์เพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบัน EBIDA จากน้ำมันอยู่ที่ 70% จะเหลือ 52-55% จากนอน-ออยล์เดิมอยู่ที่ 25% จะเพิ่มเป็น 35% และจากธุรกิจในต่างประเทศเดิมอยู่ที่ 5% จะเพิ่มเป็น 13-15%

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 22,300 ล้านบาท โดยช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาอาจจะต่ำกว่าแผนเล็กน้อย เนื่องจากภาพรวมการขยายสาขาของทั้งสถานีบริการน้ำมัน (ปั๊ม) และร้านคาเฟ่อเมซอนทั้งในและต่างประเทศไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผนเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 แต่แผนการร่วมทุนและเข้าซื้อกิจการใหม่ ๆ (M&A) ยังอยู่ในแผนการดำเนินงานเช่นเดิม โดยสัดส่วนจะอยู่ที่ 10-15% ของในธุรกิจนอน-ออยล์ และในธุรกิจต่างประเทศ ที่มุ่งเน้นไปในหลาย ๆ ธุรกิจทั้งฟู้ด นอน-ฟู้ดและธุรกิจดิจิทัล ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 10 ดีล แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าภายในปีนี้จะปิดได้กี่ดีล

ส่วนผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2564 ว่าโออาร์ สามารถทำกำไรสุทธิ 7,228 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,810 ล้านบาท หรือคิดเป็นกว่า 100% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมาจากทั้งรายได้ขายและอีบิทดา ที่เพิ่มขึ้น โดยมีรายได้ขายและบริการสำหรับครึ่งปีแรก 237,168 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ปัจจัยหลักมาจากกล่มธุรกิจน้ำมัน ที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นจากเศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงของการฟื้นตัว ทำให้ราคาขายเฉลี่ยผลิตภัณฑ์น้ำมันปรับตัวสูงขึ้น

ขณะที่ปริมาณขายรวมลดลง 5% โดยหลักมาจากตลาดพาณิชย์ส่วนใหญ่ในน้ำมันอากาศยานที่ปริมาณขายยังไม่กลับมาเท่ากับช่วงก่อนโควิด-19 ส่วนกลุ่มธุรกิจนอน-ออยล์ รายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน ตามการขยายสาขาของร้านคาเฟ่ อเมซอนที่เพิ่มขึ้น สำหรับอีบิทดาในช่วงครึ่งปีแรกของปี 64 จำนวน 11,867 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,126 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 76% สะท้อนถึงความแข็งแกร่ง ทั้งกลุ่มธุรกิจน้ำมันและนอน-ออยล์ ที่มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นจากกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจน้ำมัน และการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

“ในช่วงครึ่งปีหลังยังไม่สามารถสรุปได้ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร เพราะโออาร์จะมีผลประกอบการที่ขึ้นอยู่กับจีดีพี ซึ่งจากการคาดการณ์ของหลายหน่วยงานเห็นว่าจีดีพีปีนี้อาจจะไม่เติบโตมากนัก แต่ปีหน้าจะเริ่มดีขึ้น และหากจากดูประมาณการณ์ของราคาน้ำมัน ในแง่ของรายได้ก็อาจจะใกล้เคียงกับช่วงครึ่งแรกของปี ส่วนการควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ที่คาดว่าในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้จะเริ่มคลี่คลายลง จะส่งผลให้เรื่องของการเดินทางมีมากขึ้นหรือจับจ่ายใช้สอยจะดีขึ้น จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะสนับสนุนผลประกอบการโออาร์ด้วย”

สำหรับฐานะทางการเงิน ณ 30 มิ.ย. 2564 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 199,557 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54,578 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 37.6% จากสิ้นปี 2563 โดยหลักมาจากเงินสดสุทธิที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 53,497 ล้านบาท บริษัทฯ มีหนี้สินรวมจำนวน 101,599 ล้านบาท ลดลง 5,464 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการจ่ายคืนเงินกู้ สำหรับส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 97,958 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60,042 ล้านบาท จากการเพิ่มทุนของบริษัทฯ จากการ IPO ดังกล่าวข้างต้น และกำไรสุทธิในงวดครึ่งปีแรกของปี 2564 จำนวน 7,228 ล้านบาท

ขณะที่สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกในช่วงครึ่งปีหลังนี้คาดว่าน่าจะอยู่ประมาณ 60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยน ในส่วนของเงินบาทที่อ่อนค่าลงนั้นยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อศักยภาพของบริษัท ด้านธุรกิจที่กำลังดำเนินงานในเมียนมานั้น ทั้งท่าเทียบเรือ หรือท่อถังจัดเก็บแอลีจี แผนการก่อสร้างเป็นไปตามแผน ซึ่งปัจจุบันคืบหน้ากว่า 75% แล้ว

นอกจากนี้ OR ยังมีโครงการ OR Space เพื่อนำพื้นที่ทำเลที่ตั้งที่ไม่เหมาะสมจะทำสถานีบริการน้ำมันมาจัดทำเป็นพื้นที่ค้าปลีก คล้ายคลึงกับ Comunity Retail Mall เล็กๆ โดยจะนำสินค้า 3-4 รายการ มาดึงดูดลูกค้า เพื่อให้ได้ผลตอบแทนเร็วเป็นภาระต่อการลงทุนต่ำ ขณะนี้กำลังจัดทำต้นแบบ คาดว่าน่าจะได้เห็นภายในช่วงปลายปีนี้