อคส.จ่อปิดบัญชีจำนำข้าว โละสต๊อก 2 แสนตันสุดท้าย

อคส.ตั้งเป้าปี’65 โละสต๊อกข้าวจำนำ 2.2 แสนตัน พร้อมเร่งตั้งทีมที่ปรึกษากฎหมายพิเศษเพิ่ม ลุยเกลาสำนวนคดีจำนำ 1,143 คดี ความเสียหาย 5 แสนล้าน หวั่นแพ้

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า อคส.มีเป้าหมายจะระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีและข้าวเปลือกนาปรัง ในส่วนที่ อคส.ดูแลที่ยังเหลือ 220,000 ตัน ให้หมดภายในเดือน ก.ย. 2565 เพื่อปิดบัญชีโครงการจำนำให้เสร็จ

โดยเร็ว ๆ นี้จะเสนอคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน พิจารณาอนุมัติระบายข้าวปริมาณ 1 แสนตัน ให้เร็วที่สุด

จากนั้นจะดำเนินการเปิดประมูล และส่งมอบข้าว คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกกว่า 6 เดือน และอีกส่วนจะเป็นการระบายต่อเนื่องจากที่ นบข.อนุมัติไปแล้วอีกกว่า 1 แสนตัน หรือประมาณครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 220,000 ตัน กระจายอยู่ทั่วประเทศ

“หากระบายได้หมดตามเป้าหมาย คาดว่าจะสามารถปิดบัญชีโครงการรับจำนำได้ ทำให้รัฐบาลทราบว่ามีผลขาดทุนเท่าไร ซึ่งที่ผ่านมา อคส.ก็ดำเนินการระบายข้าวมาเรื่อย ๆ แต่ก็ยังมีปัญหาระบายไม่หมดเพราะมีเหตุจากที่ข้าวบางส่วนติดการยึดหน่วงจากคดีต่าง ๆ ปัญหาค่าเช่า ชดเชยส่วนต่าง บันทึกแนบท้าย เป็นต้น หากเป็นสัญญาปกติ อคส.สามารถยกเลิกได้ทุกเวลาไม่เสียหายแต่การประมูลข้าวที่ผ่านมามีบันทึกแนบท้าย อคส.ไม่มีสิทธิ์ยกเลิก ส่งผลให้ต้องแบกรับค่าเช่า ดังนั้น ต้องการระบายข้าวให้แล้วเสร็จสักที”

สำหรับข้าว 220,000 ตันนี้ มีทั้งชนิดข้าวเหนียว ข้าวหอมมะลิ และเป็นข้าวเสื่อมสภาพ คาดว่าจะขายเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่คนและสัตว์บริโภค โดยน่าจะสามารถใช้ในอุตสาหกรรมพลังงาน เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าชีวมวล

นอกจากนี้ ยังมีข้าวบางส่วนที่ติดปัญหาเรื่องการเคลมค่าประกันซึ่ง อคส.ตั้งเป้าภายใน 5 เดือน ขณะเดียวกัน อคส.อยู่ระหว่างดำเนินการจ่ายค่าเช่าให้เจ้าของคลังที่ยังติดค้างอยู่ตามขั้นตอน

นายเกรียงศักดิ์กล่าวว่า อคส.จะจ้างทีมที่ปรึกษาด้านกฎหมายพิเศษขึ้นมาเพิ่มเติมจากคณะทำงานเดิม เพื่อมาดูสำนวนทุกคดีก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนของกฎหมาย สำหรับคดีที่ อคส.รับผิดชอบดำเนินการเกี่ยวกับโครงการรับจำนำสินค้าเกษตรรวม 1,334 คดี

แบ่งเป็น คดีมันสำปะหลัง 191 คดี คาดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายใน 2 ปี และโครงการจำนำข้าวเปลือกนาปี และนาปรัง ปีการผลิต 2554-2557 อคส.ฟ้องร้องดำเนินคดีไปแล้วในช่วงรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) 1,143 คดี มูลค่าความเสียหายราว 500,000 ล้านบาทแยกเป็น คดีแพ่ง 246 คดี คดีอาญา 897 คดี กลุ่มที่ดำเนินคดีอยู่ในกลุ่ม เช่น เซอร์เวเยอร์ เจ้าของคลัง เป็นต้น

“คดีที่กังวลคือ คดีจากโครงการรับจำนำข้าว เนื่องจากมูลค่าความเสียหายเยอะ หากเกิดแพ้คดีจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของ อคส.ทันที ที่ต้องแบกรับค่าเสียหายที่เกิดขึ้นแล้วจะแบกรับไหวไหมแต่บางคดีที่ชนะคดีไปแล้วก็มี อคส.เตรียมจ้างทีมที่ปรึกษาด้านกฎหมายพิเศษ เพื่อมาดูสำนวนทุกคดีก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอน เป้าหมายคือคดีแพ่งและปกครอง 246 คดี เราหวังให้ชนะมากที่สุด”