ส่องแผน ปตท.-บางจาก-พีทีจี รับมือวิกฤตน้ำมันทะลุ 120 เหรียญ

ปั้มน้ำมัน

ส่องแผน “ปตท.-บางจาก-พีทีจี” รับมือวิกฤตน้ำมันทะลุ 120 เหรียญสหรัฐ พิษสงครามรัสเซียยูเครน ประสานเสียงขึ้นราคาเบนซิน สูงสุด 1 บ./ลิตรมีผล พรุ่งนี้

รายงานข่าวระบุว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในวันนี้ (8 มีนาคม 2565) ทะลุ 124.91 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หรือเพิ่มขึ้น 4.61% ขณะที่ค่ายน้ำมันทั้ง PTT Station สถานีบริการน้ำมันบางจาก และพีที ต่างประกาศปรับราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ ขึ้นลิตรละ 1 บาท มีผล 9 มี.ค.65 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป ส่วนกลุ่มดีเซลทุกชนิดยังคงราคาเดิม

ทั้งนี้ การปรับขึ้นราคาน้ำมันครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 ของเดือนมีนาคม 2565 ที่ได้มีการปรับรวม 2.80 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 4,5 และ 9 มีนาคม 2565 ครั้งนี้ซึ่งถือว่าเป็นการปรับในอัตราที่สูงที่สุด

ขณะที่น้ำมันดีเซล ได้มีการปรับขึ้น 1 ครั้งในวันที่ 2 มีนาคม 2565 ในอัตรา 0.60 บาทต่อลิตร

สำหรับภาพรวมการ ประเมินสถานการณ์น้ำมันและการปรับแผนของค่ายน้ำมัน 3 รายใหญ่ ที่ได้มีการติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบและปรับแผนต่อเนื่อง

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้บริษัทเฝ้าติดตามสถานการณ์เรื่องรัสเซีย-ยูเครนอย่างใกล้ชิด โดยยังประเมินว่าสถานการณ์การรัสเซีย-ยูเครนจะเป็นปัจจัยระยะสั้น กระทบราคาน้ำมันในช่วงไตรมาส 2 ทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับขึ้นไปถึง 120-130 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่ไม่ตลอด หลังจากนี้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะปรับลดลงมาอยู่ที่ 90-100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

โดยยังคงดำเนินแผนการนำเข้า และสต๊อกน้ำมันตามปกติ ยังไม่ได้มีการเพิ่มการสต๊อก ทางบางจากไม่ได้มุ่งมองเรื่องการเก็งกำไร

“กระบวนการกลั่นยังปกติ ที่ 120,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งถือว่าแทบจะมีปริมาณไม่เพียงพอขายแล้ว ไม่ต้องมองถึงเรื่องการระงับการส่งออก”

“ส่วนมาตรการรัฐที่ดูแลราคาน้ำมันดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตรนั้นถือเป็นมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนที่บางจากพร้อมจะช่วยดำเนินมาตรการเพื่อลดภาระผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม การปรับราคาที่มีระดับความถี่แตกต่างกันของ 2 แบรนด์ ไทยกับค่ายต่างชาติ ซึ่งอาจจะห่างกันบ้าง ก็เป็นปัจจัยที่มีผลต่อจิตวิทยาทำให้ประชาชนหันมาใช้น้ำมันของบางจากมากขึ้น”

นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG กล่าวเสริมว่า แผนรับมือกับผลกระทบบริษัทจะบริหารสต๊อกน้ำมันให้อยู่ในระดับที่ต่ำที่สุด และรักษากระแสเงินสด แม้ว่าอาจจะไม่เพียงพอและอาจจะขาดไปบางช่วงก็ต้องยอมรับ เพราะภาษีสรรพสามิตสูงมาก ทั้งนี้ ปริมาณการขายน้ำมันพีที อยู่ที่ 400 ลิตรต่อเดือน อย่างไรก็ดี ประเมินช่วง 3 เดือนยังพอไหว แต่หลังจากนั้นหากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้อยู่เหนื่อยแน่นอน บอกได้แค่ว่าสต๊อกน้ำมันให้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค. 2564 ราคาน้ำมันดิบมีการปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเดิมคาดการณ์ว่าจะอยู่ในระดับ 120 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งขณะนี้จากปัญหาทางการเมืองระหว่างรัสเซียและยูเครน ส่งผลให้ทะลุจากที่คาดการณ์ไว้มาก ราคาฮั่งเช้งได้มีการคาดการณ์ว่าอาจไปถึง 170 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลแล้ว หวังว่าตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้จะคลี่คลาย ช่วยให้ค่าการตลาดดีขึ้น

“ค่าการตลาดที่ภาครัฐมอนิเตอร์ จากสงครามรัสเซียและยูเครนกระทบอย่างหนัก ส่งผลให้กำไรก่อนหักภาษีธุรกิจน้ำมันลดลง 46.8% จากค่าการตลาดที่ภาครัฐมอนิเตอร์ ซึ่งผู้ค้าน้ำมันปัจจุบันถือว่ามีความเป็นอิสระ ทุกค่ายบริหารราคาไปตามต้นทุนของตนเองมากขึ้น ยกเว้นผู้ค้าน้ำมัน 2 ค่าย แต่การที่ปัจจุบันรัฐบาลใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสนับสนุนราคาน้ำมันบวกกับลดภาษีสรรพสามิต

ซึ่งการอุ้มราคาน้ำมันดีเซลไว้ถึงวันที่ 31 มี.ค. 2565 รัฐจะต้องใช้เงินอีกอย่างมหาศาล สิ่งที่กังวลคือหากรัฐบาลแก้ปัญหาช้าจะตายยกแผง เข้าใจว่าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) วันที่ 9 มี.ค. 2565 ที่จะถึงนี้ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน จะต้องออกมาตรการที่รวดเร็วและหลังจากวันที่ 31 มี.ค. 2565 จะตรึงที่ราคา 30 บาทต่อลิตรต่อไปหรือไม่”

“ตอนนี้ทั้งกองทุนน้ำมันฯ บวกเงินลดภาษีส่งผลให้ให้รัฐต้องดูแลค่าใช้จ่ายคิดเป็นเงินเดือนละราว 2 หมื่นล้านบาท ถ้าช่วยน้ำมันเบนซินด้วยจะอยู่ที่ราวเดือนละ 3-4 หมื่นบ้านบาท ไม่ถึง 3 เดือนรัฐต้องใช้เงินกว่าแสนล้านบาท ซึ่งรัฐจะยกเลิก 30 บาทต่อลิตรหรือไม่ ต้องคิดดี ๆ”

“จริง ๆ แล้วหากย้อนไปเมื่อปี 2551 ราคาน้ำมันพุ่ง ก็เคยเกิดขึ้น สุดท้าย สิ่งที่เรากังวลถ้ารัฐช้า ตายเลย ต้องรอดูว่า 31 มีนาคม จะยังคงตรึงราคาอยู่ที่ 30 บาท อยู่ได้หรือไม่ รัฐบาลต้องตีโจทย์นี้ให้ดี ถามว่าถ้าน้ำมันขึ้นไปเรื่อย ๆ กระทบไหม ผมมองว่ากระทบ กระทบโลกทั้งใบ ไม่ใช่แค่บริษัทน้ำมัน ถ้าไปถึงมิถุนายน น่าจะเหนื่อย”

ก่อนหน้านี้นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์วิกฤตยูเครน-รัสเซียที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ปตท.ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอดจนเตรียมความพร้อมทั้งการจัดหาน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปเพื่อให้มั่นใจว่าประเทศมีพลังงานใช้อย่างเพียงพอและสามารถรองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ กลุ่ม ปตท.ได้บริหารความเสี่ยงด้านการจัดหาน้ำมันดิบจากหลายแหล่ง โดยดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อเตรียมความพร้อม ได้แก่ การประสานงานโรงกลั่นกลุ่ม ปตท.ให้สำรองน้ำมันคงคลังในระดับสูงสุดการนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐอเมริกาประมาณ 95 ล้านลิตร โดยเก็บไว้ในถังน้ำมันที่ศรีราชา ประสานเครือข่ายคู่ค้าเพื่อเตรียมจัดหาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากภาวะปกติอย่างน้อยประมาณ 160 ล้านลิตร รวมทั้งการนำปริมาณน้ำมันที่ทำการค้าสากลเข้ามาในประเทศเพื่อสำรองด้านความมั่นคงอีกประมาณ 320 ล้านลิตร

นอกจากนี้ มีการบริหารจัดการการขนส่งน้ำมันดิบและนำระบบการติดตามการเดินเรือ (vessel tracking) มาใช้เพื่อให้เรือเดินทางตรงเวลา และได้เตรียมความพร้อมถังกรณีต้องจัดเก็บเพิ่มเติม โดยจากการดำเนินมาตรการดังกล่าวทำให้ประเทศมีปริมาณน้ำมันสำรองเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 640 ล้านลิตร

สำหรับการบริหารปริมาณน้ำมันสำเร็จรูป ได้เตรียมความพร้อมจัดหาน้ำมันสำเร็จรูปเพิ่มเติม รวมถึงระงับการส่งออกน้ำมันดีเซลเป็นการชั่วคราว โดยนำเข้าน้ำมันเบนซินเฉลี่ย 30 ล้านลิตรต่อเดือน ในส่วนของน้ำมันเตา ได้นำเข้าเพื่อส่งให้กับโรงไฟฟ้าบางปะกงเดือนละ 4,000 ตัน สำหรับ LPG หากมีปริมาณความต้องการใช้เพิ่มมากขึ้น กลุ่ม ปตท.พร้อมที่จะจัดหา spot LPG เพื่อให้มั่นใจว่ามีปริมาณพลังงานที่เพียงพอต่อความต้องการของประเทศ

กลุ่ม ปตท.พร้อมเป็นกำลังสำคัญ และปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มความสามารถเพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศทั้งในภาวะปกติ และสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและปฏิบัติการเพื่อความมั่นคงทางพลังงานทันที อย่างไรก็ตาม เสถียรภาพทางพลังงานของประเทศจะเกิดขึ้นอย่างแท้จริงอยู่ที่ทุกคนร่วมมือร่วมใจประหยัดและรู้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพด้วย