จุรินทร์โชว์วิชั่นในเวทีประชุมอาเซียน+3 หนุนเร่งใช้ประโยชน์ RCEP

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์

“จุรินทร์” โชว์วิชั่น พัฒนาอาเซียนด้วยนวัตกรรม 4 ด้าน พร้อมหนุนเร่งใช้ประโยชน์ RCEP บนเวทีความร่วมมืออาเซียน+3

วันที่ 29 กรกฎาคม 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนได้รับเชิญจากรัฐบาลจีนให้เป็นตัวแทนประเทศไทยร่วมกล่าวถ้อยแถลงในเวทีระดับผู้นำของการประชุมอาเซียน+3 (จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้) ว่าด้วยความร่วมมือด้านห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทาน โดยมีผู้แทนระดับผู้นำของภูมิภาคอาเซียน+3 เข้าร่วม ซึ่งได้จัดขึ้นในวันที่ 29 กรกฎาคม 2565

การประชุมดังกล่าว ได้มีการหารือในหัวข้อกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ การหยุดชะงักจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ ทำให้อาเซียน+3 ต้องหันมาร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทานการผลิตมากยิ่งขึ้น โดยลดการพึ่งพาแหล่งการผลิตเดียว และลดขั้นตอนของห่วงโซ่การผลิตให้สั้น และซับซ้อนน้อยลง

ซึ่งตนได้เสนอให้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อสร้างความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทานระหว่างอาเซียนกับประเทศสมาชิกอย่างเป็นรูปธรรม 4 ด้าน คือ (1) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อนำไปสู่ระบบการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานระหว่างกันอย่างไร้รอยต่อ โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ

(2) การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีความสามารถพร้อมรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมขั้นสูงและสร้างทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้กับแรงงาน (3) การส่งเสริมการอำนวยความสะดวกทางการค้า เช่น การนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในกระบวนการทางศุลกากร เพื่อช่วยลดขั้นตอนให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

และ (4) การเสริมสร้างความร่วมมือระดับภูมิภาคให้แข็งแกร่ง เพื่อสร้างความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทานให้แน่นแฟ้นและส่งเสริมการค้าภายในภูมิภาค โดยการจัดทำความตกลงการค้าเสรี หรือ FTA ซึ่งความตกลง RCEP ถือเป็นความสำเร็จหนึ่งที่เป็นรูปธรรม ช่วยให้เกิดความเชื่อมโยงและขยายห่วงโซ่อุปทานจากการสะสมถิ่นกำเนิดในภูมิภาคได้มากยิ่งขึ้น

การประชุมอาเซียน+3 นี้เป็นการประชุมเฉพาะกิจที่รัฐบาลจีนจัดขึ้นภายใต้งานผู้ประกอบการเอเชียตะวันออกไท่หู ครั้งที่ 2 ณ เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยแบ่งการประชุมออกเป็น 3 ช่วง คือ การประชุมระดับผู้นำ การประชุมระดับรัฐมนตรีเศรษฐกิจ และการเสวนาในหัวข้อย่อยต่าง ๆ อาทิ เขตการสาธิตร่วมเพื่อการพัฒนาการค้าและเศรษฐกิจเชิงนวัตกรรม การใช้ประโยชน์จากความตกลง RCEP และเศรษฐกิจดิจิทัลและการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวซึ่งมีผู้บริหารระดับสูงภาคเอกชนและนักวิชาการที่มีชื่อเสียงของไทยเข้าร่วมการเสวนา

ได้แก่ นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน และ รศ.ดร.ชโยดม สรรพศรี ประธานหลักสูตรเศรษฐศาสตรดุษฎีบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยการประชุมครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประชุมจริงจากหน่วยงานภาครัฐ สมาคมการค้า สถาบันทางการเงิน และผู้ประกอบการของจีน กว่า 500 ราย และในรูปแบบออนไลน์กว่า 1.3 ล้านราย จากประเทศอาเซียนและประเทศบวกสาม ซึ่งถือเป็นกิจกรรมเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 25 ปี ของกรอบความร่วมมืออาเซียนบวกสามใน 2565 นี้ด้วย

ทั้งนี้ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2565 การค้าระหว่างอาเซียนกับประเทศบวกสาม มีมูลค่าถึง 563,530 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นถึง 14% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ในขณะเดียวกัน ในปี 2564 การลงทุนโดยตรงของประเทศบวกสามในอาเซียน มีมูลค่าถึง 32,650 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 1 ใน 4 ของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศทั้งหมดในอาเซียน