17 มหาวิทยาลัย เตรียมปักหมุดอาณาจักรเมตาเวิร์ส พลิกโฉมการศึกษาไทย

17 มหาวิทยาลัย เตรียมปักหมุดอาณาจักรเมตาเวิร์ส พลิกโฉมการศึกษาไทย ร่วมกับ Aniverse Metaverse และ xCHAIN ผุด “Metaverse Education Community” ดันมูลค่าโครงการแตะ 1,950 ล้านบาท

วันที่ 2 สิงหาคม 2565 บริษัท ครีเอทีฟ ดิจิทัล ลีฟวิ่ง จำกัด ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอาทิ xCHAIN กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมด้วย 17 มหาวิทยาลัย Join Application I am Consulting และ Anitech เปิดโครงการ “Aniverse Metaverse” โลกเสมือนแห่งการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ Edu GameFi เกมที่พัฒนาขึ้นด้วยหลักการ “เกมส์บวก การเรียน”

ตลาดเมตาเวิร์สทั่วโลกมูลค่า 6,788 ล้านดอลลาร์

โธมัส-พิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ประธานกรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ครีเอทีฟ ดิจิทัล ลีฟวิ่ง จำกัด เปิดเผยว่า จากรายงานของ Grand View Research ภาพรวมของมูลค่าตลาดเมตาเวิร์สทั่วโลกจะมีมูลค่าสูงถึง 6,788 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2030 ขณะเดียวกันผลวิจัยของ Global Market Insights ระบุตัวเลขตลาดการศึกษาออนไลน์มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี 20% ในปี 2022 ถึงปี 2028 จาก 315 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สู่ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

โดยภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยถึง 27% ประกอบกับ ITU รายงานตัวเลขผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกแตะ 4,900 ล้านคนในปี 2022

สะท้อนให้เห็นภาพที่เปลี่ยนไปของโลกการศึกษาในปัจจุบันที่ทุกคนบนโลกนี้ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามก็สามารถเข้าถึงหลักสูตรการเรียนการสอนผ่านโลกออนไลน์ได้ตั้งแต่เริ่มเรียนจนกระทั่งได้รับปริญญา

17 มหาวิทยาลัย เตรียมปักหมุดอาณาจักรเมตาเวิร์ส

พัฒนาหลักสูตรร่วม 17 มหาวิทยาลัย

แอนิเวิร์ส เมตาเวิร์ส คือโมเดลที่เป็นโลกเสมือนได้พัฒนาองค์ประกอบหรือโครงสร้างไว้หลากหลาย โดยล่าสุดจะพัฒนาหลักสูตรร่วมกับมหาวิทยาลัย 17 แห่ง ได้แก่ วิทยาลัยศิลปะ สื่อ เทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยขอนแก่น, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, มหาวิทยาลัยพะเยา, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ,

มหาวิทยาลัยรังสิต, มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยมหิดล, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน, Chulalongkorn University Technology Center : UTC, มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เป็นต้น

โดยจะนำพาอาจารย์และนักศึกษาจำนวนประมาณ 500,000 คน ก้าวเข้าสู่โลกของเมตาเวิร์สด้วยระบบ LMS (Learning Management System) ที่ทีมแอนิเวิร์สพัฒนาขึ้นร่วมกับอาจารย์และนักศึกษา

ซึ่งความสำเร็จของระบบ LMS Platform นั้น หน่วยงานภาครัฐของเยอรมนีได้นำ ไปใช้กับโรงเรียนในเบอร์ลิน โดยเริ่มจากอาจารย์ และนักเรียนหลักหมื่นจนปัจจุบันกำลังขยายจำนวนให้ครอบคลุมถึง 400,000 คนแล้ว

รวมถึงมหาวิทยาลัยในต่างประเทศหลายแห่งก็มีการปรับเอาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในเมตาเวิร์สเข้ามารองรับการศึกษาออนไลน์ที่ขยายตัว จึงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่แอนิเวิร์สจะพัฒนาสิ่งนี้ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ด้วยศักยภาพและราคาในการเข้าถึงเทคโนโลยีที่ถูกมาก จึงเชื่อว่าระบบของแอนิเวิร์สจะสามารถสเกลและทำซ้ำขั้นตอนส่วนใหญ่ของการเรียนการสอนได้เองทั้งอาจารย์และนักศึกษา

17 มหาวิทยาลัย เตรียมปักหมุดอาณาจักรเมตาเวิร์ส

แผนลดความเหลื่อมล้ำ

โธมัส-พิชเยนทร์ กล่าวอีกว่า อนาคตคาดว่าแอนิเวิร์สจะสามารถหาทางช่วยลดจำนวนเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษาที่มีตัวเลขถึง 65,000 คนในปี 2564 และจำนวนที่อาจจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ ให้สามารถกลับเข้าสู่ระบบได้ พร้อมทั้งมีแผนจะช่วยหาโอกาสใหม่ ๆ ให้เด็กนักเรียนยากจนพิเศษอีก 1.2 ล้านคน ตามข้อมูลจากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ให้ได้มีโอกาสในโลกใหม่อย่างดิจิทัล เพราะในโลกความเป็นจริงคงยากมากที่จะช่วยคนจำนวนมากเช่นนี้ได้หากไม่ใช้ระบบมาเป็นตัวช่วย เพียงแต่คงยังต้องหาวิธีและเชื่อว่าอนาคตจะเป็นไปได้

มุ่งเป็นคอมมิวนิตี้การศึกษาบนเมตาเวิร์สใหญ่สุดในไทย

โธมัส-พิชเยนทร์ กล่าวต่อว่า เราวางแผนที่จะกลายเป็น Metaverse Education Community บนโลกเมตาเวิร์สที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยได้อย่างเต็มภาคภูมิ นำไปสู่การเรียนรู้ผ่านประสบการณ์รูปแบบใหม่ที่สร้างความสนุก และความน่าสนใจในการเรียนการสอนมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจาก xCHAIN ในการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของเทคโนโลยีบล็อกเชน ที่ช่วยลดต้นทุนในเรื่อง Gas Fee ทำให้คอมมิวนิตี้แห่งนี้สมบูรณ์แบบและพร้อมสร้างโอกาสให้กับผู้ใช้งานทุกคนไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม

ดึงบล็อกเชนมาใช้

ธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า xCHAIN เป็น non-profit organization ที่มีพันธกิจเพื่อเป็นเทคโนโลยีบล็อกเชนพื้นฐานที่สร้างขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ภาคการศึกษา นักศึกษา กลุ่มธุรกิจขนาดย่อมวิสาหกิจ หรือกลุ่มนักพัฒนาได้ใช้งาน ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อย และมีความผันผวนต่ำ

ส่วนความร่วมมือกับแอนิเวิร์ส เมตาเวิร์ส นับเป็นแพลตฟอร์มแห่งแรกที่ xCHAIN เข้าร่วมลงทุนด้วย เพราะมีวิสัยทัศน์ที่ตรงกัน ด้วยจุดแข็งของพันธมิตรและแพลตฟอร์มของเรา จะช่วยให้การทำงานร่วมกันเป็นไปในแบบบูรณาการ เพื่อเป็นทางเลือก และแก้ไขปัญหาค่าใช้จ่ายให้กับคอมมิวนิตี้แห่งนี้ ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน และมีมูลค่าจากระบบบล็อกเชนที่มีความพร้อม

ขณะที่ I AM Consulting จะเข้าช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้วยการช่วยสนับสนุนผู้ใช้งาน และเพิ่มจำนวนให้เข้าสู่ระบบเมตาเวิร์ส รวมถึง Join Application กระเป๋าดิจิทัลที่จะเชื่อมต่อทุกคนบนโลกเทคโนโลยีบล็อกเชน สามารถยืนยันตัวตนได้ตามมาตรฐาน NDID และระบบยังมีความพร้อมเชื่อมต่อบริการ DApps สู่ผู้ใช้งานที่มีอยู่ประมาณ 800,000 รายให้ก้าวเข้าสู่โลกของ Lifelong Learning ได้ทันที

ธนวัฒน์กล่าวต่อว่า xCHAIN ออกแบบมาให้มีค่าใช้จ่าย (Gas Fee) ที่ไม่ผันผวน และสามารถจับต้องได้ คาดโดยเฉลี่ยเพียงครั้งละ 10-25 สตางค์ ทำให้ตัดปัญหาเรื่องการปั่นราคาเหรียญ ที่สำคัญยังช่วยประเมินค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นกับทั้งมหาวิทยาลัย และนักศึกษาล่วงหน้าได้ ทำให้ลดต้นทุน และเวลาของมหาวิทยาลัยได้เป็นอย่างดี

17 มหาวิทยาลัย เตรียมปักหมุดอาณาจักรเมตาเวิร์ส

เรียนในรูปแบบเกม

ด้านอัมพรสักก์ อังคทะวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ครีเอทีฟ ดิจิทัล ลีฟวิ่ง จำกัด กล่าวเสริมว่า จากการทำโฟกัสกรุ๊ปร่วมกับบุคลากรของมหาวิทยาลัยหลายแห่ง พบว่า เพนพอยต์สำคัญของอาจารย์ผู้สอนคือนักศึกษาทั้งในระบบออฟไลน์และออนไลน์จะมีปัญหาเรื่อง รูปแบบและแพลตฟอร์มที่ใช้ในการเรียนการสอน ปัจจุบันมีข้อจำกัดหลายประการ จึงได้พัฒนาระบบ LMS ขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ Edu GameFi ด้วยการเรียนการสอนในรูปแบบเกม MMORPG (Massively Onlilne Role Playing Game) ที่มีผู้เล่นจำนวนมาก
โดยนักศึกษาสามารถสร้างตัวตนเสมือนของตัวเองเพื่อเข้าไปยัง Education Zone พื้นที่สำหรับการเรียน ในการทำภารกิจต่าง ๆ เพื่อให้ได้รับไอเทม (NFT item) และค่าประสบการณ์ต่าง ๆ (Exp)

ทั้งนี้ ระบบ Edu GameFi จะครอบคลุมการทำงานทั้ง 3 ส่วน ได้แก่ Academy System, Lecturer System และ Student เน้นการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ด้านการศึกษา ด้วยจุดเด่นของฟีเจอร์ที่มีประสิทธิภาพกับทั้งฝั่งครูผู้สอนและฝั่งนักศึกษา อาทิ ระบบ AI ที่ช่วยตรวจงาน ประเมินและวิเคราะห์พฤติกรรมของนักศึกษาเพื่อช่วยค้นพบตัวตนของตนเอง และยังช่วยลดงานในการเตรียมการเรียนการสอนของผู้สอนได้ถึง 20% สามารถใช้เวลาเหล่านั้นไปเติมเต็มศักยภาพให้กับนักศึกษาที่มีผลการเรียนต่ำกว่าเพื่อน ฯลฯ

ขณะเดียวกัน ฝั่งนักศึกษาจะมีแรงดึงดูดในการมีปฏิสัมพันธ์กับการเรียนได้ดีขึ้นกว่าเดิม ผ่านการที่นักศึกษาจะเข้ามารับภารกิจที่กำหนด และเมื่อทำภารกิจสำเร็จก็จะได้รับ Exp และ NFT Item เป็นการยืนยันว่าได้สำเร็จภารกิจดังกล่าว และสามารถก้าวไปสู่ภารกิจต่อไปได้ ทั้งยังสามารถเรียนและทำงานไปด้วยกัน ต่อยอดสู่การป้อนทรัพยากรเหล่านี้สู่ตลาดแรงงานได้ตั้งแต่อายุ 18 ปี

ดันมูลค่าโครงการ 1.9 พันล้าน

สำหรับความคืบหน้าของ “แอนิเวิร์ส เมตาเวิร์ส” จากรอบการลงทุนเฟสแรก โครงการมีมูลค่า 300 ล้านบาท ซึ่งมีผู้ลงทุนทั้งสถาบันและบุคคลนำโดยบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ และทาโร่-ธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ เป็นต้น ปัจจุบันโครงการมีพัฒนาในเชิงการมีส่วนร่วมกับพาร์ตเนอร์ซึ่งมีความครบถ้วนในด้านระบบนิเวศ ทำให้ล่าสุดมูลค่าโครงการขยับไปที่ 1,950 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ANIV Token สกุลเงินกลางในการแลกเปลี่ยน กำลังพัฒนาเข้าสู่ exchange ทั้งรูปแบบ centralized และ decentralized ภายในเดือนกันยายน 2565