ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า หลังแข็งค่าสูงสุดในรอบ 20 ปี

ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า หลังแข็งค่าสูงสุดในรอบ 20 ปี ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 กันยายน

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันอังคารที่ 30 สิงหาคม 2565 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (30/8) ที่ระดับ 36.33/34 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (29/8) ที่ระดับ 36.43/44 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง หลังจากดัชนีดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าแตะระดับ 109.48 ในวันจันทร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2545 หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้คำมั่นว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยเฟดจะยังคุมเข้มนโยบายการเงิน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐ

นายพาวเวลล์ยังกล่าวด้วยว่า หลังจากเสร็จสิ้นการใช้มาตรการปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้ว เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งสวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า

ถ้อยแถลงของนายพาวเวลล์ส่งผลให้นักลงทุนปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนกันยายน โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 66.2% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 กันยายน และให้น้ำหนักเพียง 33.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ เฟดสาขาดัลลัสเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีชี้วัดกิจกรรมในภาคธุรกิจโดยรวมในรัฐเท็กซัสปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -12.9 ในเดือนสิงหาคม ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์จากระดับ -22.6 ในเดือนกรกฎาคม อย่างไรก็ดี ดัชนียังคงมีค่าเป็นลบ ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวของภาคการผลิตในรัฐเท็กซัส โดยดัชนีหดตัวเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน หลังถูกกระทบจากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน

ขณะที่ภาคธุรกิจยังคงขาดความเชื่อมั่นในช่วง 6 เดือนข้างหน้า ทั้งนี้ ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 36.29-36.48 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 36.39/40 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร เปิดตลาดเช้าวันนี้ (30/8) ที่ระดับ 1.0004/05 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (29/8) ที่ระดับ 0.9967/71 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร จากการคาดการณ์นักลงทุนเกี่ยวกับการที่ธนาคารกลางยุโรปอาจคงอัตราเร่งในการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวและต่อเนื่องเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

โดยนางอิซาเบล ชนาเบล กรรมการธนาคารกลางยุโรป (ECB) เตือนในช่วงสุดสัปดาห์ว่า ธนาคารกลางต่าง ๆ ต้องดำเนินการอย่างรุนแรงเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ แม้การทำดังกล่าวฉุดให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยก็ตาม ขณะที่นายฟรานโคอิส วิลลีรอย สมาชิกสภาบริหาร และนายมาร์ติน คาเซกส์ ผู้กำเนิดนโยบายของ ECB ก็ได้ส่งสัญญาณถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ในเดือนกันยายน ตลาดคาดการณ์ว่ามีโอกาส 2 ใน 3 ที่ ECB อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 0.75% ในเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 24% จากสัปดาห์ก่อน

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยูโรโซนในวันพุธนี้ ซึ่งมีแนวโน้มบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนจะยังคงอยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 0.9980-1.0033 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.0025/29 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (30/8) ที่ระดับ 138.57/58 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (29/8) ที่ระดับ 138.54/55 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ จากการคาดการณ์ว่า ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐจะปรับตัวกว้างขึ้น เนื่องจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เดินหน้าใช้นโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายพิเศษ ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ทั้งนี้ ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 138.28-138.78 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 138.38/40 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญสัปดาห์นี้ ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อเดือนสิงหาคม (ประมาณการเบื้องต้น) ของเยอรมนี, ดัชนีราคาบ้านเดือนมิถุนายน โดยเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ของสหรัฐ, ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนกรกฎาคมของสหรัฐ และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและบริการเดือนสิงหาคม จากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -6.40/-6.20 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -4.70/-2.10 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ