ธนาคารกรุงศรีฯ แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น 17 ม.ค. 66 พิจารณาอนุมัติดีลซื้อหุ้น 75% “Home Credit” ในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ มูลค่ารวมกว่า 1.77 หมื่นล้านบาท
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) รายงานถึงมติคณะกรรมการธนาคารวานนี้ (23 พ.ย.) ที่อนุมัติให้เข้าซื้อหุ้น 75% เพื่อเข้าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในธุรกิจสินเชื่อผู้บริโภคของ Home Credit ในประเทศอินโดนีเซียและประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 473.9 ล้านยูโร หรือคิดเป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 17,700.8 ล้านบาท
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
โดยบอร์ดธนาคารยังอนุมัติกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2566 ในวันอังคารที่ 17 มกราคม 2566 เวลา 14.00 น. ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-EGM)
ซึ่งนอกจากจะมีวาระให้ที่ประชุมรับทราบการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565 แล้ว ก็มีวาระพิจารณาอนุมัติการเข้าซื้อกิจการให้บริการสินเชื่อผู้บริโภคของ Home Credit ในประเทศอินโดนีเซียและประเทศฟิลิปปินส์ดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ สำหรับ Home Credit ประเทศอินโดนีเซีย เป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญในตลาดสินเชื่อผู้บริโภค เริ่มประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อผู้บริโภคแก่ผู้บริโภคในกลุ่ม mass market และ upper mass market ในปี 2556 ด้วยแบรนด์ที่แข็งแกร่งและการจัดจำหน่ายแบบ omni-channel ปัจจุบัน Home Credit ประเทศอินโดนีเซียได้ขยายการให้บริการได้อย่างทั่วถึงทั้งประเทศอินโดนีเซีย โดยเป็นผู้นำใน POS Ioan และมีผู้ใช้งานแอปพลิเคชั่นกว่า 11 ล้านราย และสามารถให้บริการสินเชื่อแก่ลูกค้ากว่า 5 ล้านรายในประเทศอินโดนีเซีย (ณ 31 ธ.ค. 2564)
ขณะที่ Home Credit ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญในตลาดสินเชื่อผู้บริโภคในประเทศฟิลิปปินส์ ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อผู้บริโภคแก่ผู้บริโภคในกลุ่ม mass market และ upper mass market
ด้วยแบรนด์ที่แข็งแกร่งและการจัดจำหน่ายแบบ omni-channel ปัจจุบัน Home Credit ประเทศฟิลิปปินส์ได้ขยายการให้บริการได้อย่างทั่วถึง โดยเป็นผู้นำใน POS Ioan และมีผู้ใช้งานแอปพลิเคชั่นกว่า 9 ล้านราย และสามารถให้บริการสินเชื่อแก่ลูกค้ากว่า 8 ล้านราย ในประเทศฟิลิปปินส์ (ณ 31 ธ.ค. 2564)