BAM ดึงเทคโนโลยีบริหาร NPL-NPA ปักธง 5 ปี ดันเรียกเก็บ 2.8 หมื่นล้าน

บสก BAM

บมจ.กรุงเทพพาณิชย์ หรือ BAM ปักธง 5 ปี ดันยอดเรียกเก็บ 2.8 หมื่นล้านบาท หลังควักงบฯพัฒนาด้านไอทีปีละ 100 ล้านบาท ดึงเทคโนโลยี-นวัตกรรมช่วยวิเคราะห์ข้อมูลบริหารจัดการ NPL-NPA ระบุปลายปี’66 เตรียมเปิดตัว BAMGO Digital Application เพิ่มความสะดวกลูกค้า 

วันที่ 11 กันยายน 2566 นายบัณฑิต อนันตมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM เปิดเผยว่า จากกลยุทธ์การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ โดยการบริหารจัดการสินทรัพย์ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) และทรัพย์รอการขาย (NPA)

และให้ความสำคัญกับการนำข้อมูลเชิงสถิติ และข้อมูลเชิงวิเคราะห์มาใช้ในการบริหารจัดการอย่างครบวงจร เพื่อให้เป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data Driven Organization) ซึ่งมีการใช้งบลงทุนเฉลี่ยกว่าปีละ 100 ล้านบาท โดยภายปลายปี 2567 โครงการ BAM D : New Core System จะแล้วเสร็จจะทำให้การทำธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ซึ่งภายใต้การนำเทคโนโลยีมาใช้ดังกล่าว จะช่วยให้บริษัทสามารถบริหารจัดการหนี้และการเรียกเก็บหนี้ได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยคาดว่าภายใน 5 ปี (ปี 2567-2571) ภาพรวมยอดเรียกเก็บเงินสดจะอยู่ที่ราว 2.5-2.8 หมื่นล้านบาท จากผลเรียกเก็บช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ทำได้สูงถึง 7,557 ล้านบาท

แบ่งเป็น NPL อยู่ที่ 3,985 ล้านบาท และ NPA 3,372 ล้านบาท และไตรมาส 2/2566 มีผลเรียกเก็บ 4,127 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากไตรมาสก่อนหน้าที่ทำได้ 3,230 ล้านบาท

ขณะที่แนวโน้มการรับซื้อหนี้มาบริหาร ปัจจุบัน BAM ได้ทำเกินเป้าหมายที่วางไว้ทั้งปี 9,000 ล้านบาทแล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเข้าประมูลรับซื้อหนี้อีกราว 3-4 หมื่นล้านบาท ซึ่งหนี้ส่วนใหญ่ยังคงเป็นทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่นำหลักทรัพย์มาเป็นประกัน

อย่างไรก็ดี ทรัพย์ที่มีการระบายของสู่ตลาดจะเป็นไปตามทิศทางของนโยบายการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าภายปี 2567 จะเห็นการเทขายทรัพย์ออกมาอีกจำนวนมาก

สำหรับการขายทรัพย์รอการขาย หรือ NPA นั้น ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีเช่นกัน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากบริษัทได้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยวิเคราะห์ตลาดและกลุ่มลูกค้าได้ตรงกลุ่มมากขึ้น ทำให้โอกาสการขายทรัพย์เพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันสามารถขาย NPA ได้เกินเป้าหมายทั้งปีที่ระดับ 7,000 ล้านบาท ซึ่งขายได้ทุกหมวดสินทรัพย์

“การดึงเทคโนโลยี AI และการนำ Data Analytic มาช่วยวิเคราะห์ จะทำให้เราสามารำทำแคมเปญ และเจาะลูกค้าเป็นเซ็กเมนต์ได้ถูกต้องมากขึ้น หรือเช่นโอกาสในการเรียกเก็บเงินติดตาม Collection ได้ดีขึ้น เพราะเทคโนโลยีจะช่วยดึงพอร์ตลูกค้าขึ้นมาดูได้ และพนักงานจะไม่ต้องไปเสียเที่ยว ซึ่งในอนาคตพนักงานที่อยู่หลังบ้านก็จะสามารถมาอยู่หน้าบ้านได้”

นายธนกร หวังพิพัฒน์วงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายสารสนเทศและดิจิทัล BAM กล่าวว่า BAM เตรียมเปิดใช้ BAMGO Digital Application ซึ่งเป็นการพัฒนา Application ที่ให้บริการลูกค้าทั้ง NPL และ NPA ที่สามารถเข้ามาดูโครงการ มาตรการ กิจกรรมส่งเสริมการขาย ทรัพย์ราคาพิเศษ หรือแม้แต่ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ผ่านช่องทางออนไลน์, การซื้อทรัพย์ และการชำระหนี้ออนไลน์

ลูกค้าสามารถเลือกซื้อและทำรายการชำระเงินผ่านแอปพลิเคชั่นธนาคาร, E-KYC การยืนยันตัวตนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

รวมไปถึงการให้บริการออกแบบบ้านด้วยระบบ AI ซึ่งเป็นการจับมือกับพันธมิตรในการให้บริการออกแบบบ้านให้ลูกค้าซื้อทรัพย์ฟรี รวมไปถึง การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลเพื่อก้าวสู่ยุค Digital เช่น Work from anywhere ซึ่งทำให้พนักงานสามารถปฏิบัติงานนอกสถานที่