TRP เคาะราคาไอพีโอ 14 บาท เปิดจองซื้อ 10-12 ต.ค. เข้าเทรดปลายเดือน

ธีรพรคลินิก

“ธีรพรคลินิก” ผู้ให้บริการศัลยกรรมความงามใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในไทย เคาะราคาไอพีโอ 14 บาทต่อหุ้น ที่ PE 21.12 เท่า เปิดจองซื้อ 10-12 ต.ค.นี้ คาดเข้าเทรด mai ปลายเดือน ต.ค. 2566 นำเงินก่อสร้างโรงพยาบาลศัลยกรรม-จัดซื้อเครื่องมือแพทย์-ชำระเงินกู้ยืม-ทุนหมุนเวียน

วันที่ 6 ตุลาคม 2566 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเตติก คอนเนค จำกัด (มหาชน) หรือ TRP ผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลด้านคลินิกเวชกรรม ภายใต้ชื่อ “ธีรพรคลินิก” ผู้ให้บริการศัลยกรรมความงามเฉพาะใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย

พร้อมแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

ธีรพรคลินิก

โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้รับจากการเสนอขายหลักทรัพย์ไปใช้เพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ เช่น การก่อสร้างโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้า พื้นที่รวมกว่า 9,918 ตร.ม. จากเดิมที่มีพื้นที่ให้บริการเพียง 1,157 ตร.ม. จัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ นำไปชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจการให้บริการศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้าที่เติบโตตามจำนวนผู้ใช้บริการทั้งชาวไทยและต่างประเทศ

ปัจจุบัน “ธีรพรคลินิก” เป็นผู้ให้บริการศัลยกรรมความงามเฉพาะบนใบหน้าแก่บุคคลทั่วไป ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า ให้บริการศัลยกรรมเฉพาะจุดด้วยนวัตกรรมการผ่าตัดที่เป็นเทคนิคเฉพาะของธีรพร

เช่น การทำศัลยกรรมดึงหน้า (FACE-LOCK), การผ่าตัดศัลยกรรมตาสองชั้น (EYE-LOCK) และการเสริมจมูกด้วยไขมันตัวเอง (FAT STEM CELL) ที่คิดค้น วิจัยและพัฒนา โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ มาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา

“TRP พร้อมแล้วที่จะก้าวสู่การเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย รองรับการให้บริการศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้าที่มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากเทรนด์การดูแลสุขภาพและความงาม รวมถึงการเข้าสู่สังคมสูงอายุ การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการต่อยอดศักยภาพและขยายธุรกิจให้แข็งแกร่ง เพื่อการเติบโตของบริษัทอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน” ซีอีโอกล่าว

นายกิตติพันธ์ ภูษณวรรณ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย TRP กล่าวว่า TRP ได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 90 ล้านหุ้น กำหนดราคาเสนอขายหุ้นละ 14 บาท บาท คิดเป็นมูลค่าเสนอขาย 1,260 ล้านบาท

โดยมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท กำหนดจองซื้อระหว่างวันที่ 10-12 ตุลาคม 2566 และคาดว่าหุ้นของบริษัทจะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจบริการ (Service) ในปลายเดือนตุลาคมนี้ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ ว่า “TRP”

ทั้งนี้ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 21.12 เท่า นับเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง สอดคล้องกับสภาวะของตลาดในปัจจุบันและอัตราการเติบโตของบริษัทในอนาคต

นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการดำเนินธุรกิจของทีมผู้บริหาร TRP เพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศในการเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย รองรับตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และตอกย้ำการเป็นผู้ที่ให้บริการศัลยกรรมความงามบนใบหน้าแก่บุคคลทั่วไปในระดับชั้นแนวหน้าของประเทศ

โดยมั่นใจว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็น TRP เป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง เป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับทิศทางเมกะเทรนด์โลก และมีศักยภาพการเติบโตต่อเนื่อง โดยผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี (2563-2565) บริษัทมีรายได้รวม 221.60 ล้านบาท 427.76 ล้านบาท และ 854.07 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 37.15 ล้านบาท 112.68 ล้านบาท และ 270.27 ล้านบาท ตามลำดับ

ขณะที่ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรก ในปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 369.05 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 105.48 ล้านบาท จึงมองว่า TRP เป็นหุ้นเติบโต (Growth Stock) และหุ้นปันผล (Stock Dividend) อีกทั้งกระแสตอบรับการจัดโรดโชว์นำเสนอข้อมูลหลักทรัพย์ให้กับนักลงทุน ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่มีนักลงทุนให้ความสนใจเข้าฟังข้อมูลเป็นจำนวนมาก โดยต่างมองเห็นศักยภาพการเติบโตที่มีความแข็งแกร่งของบริษัทและมีความสนใจอยากเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตไปกับ TRP