“ธีรพรคลินิก” ผู้ให้บริการศัลยกรรมความงามใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในไทย เคาะราคาไอพีโอ 14 บาทต่อหุ้น ที่ PE 21.12 เท่า เปิดจองซื้อ 10-12 ต.ค.นี้ คาดเข้าเทรด mai ปลายเดือน ต.ค. 2566 นำเงินก่อสร้างโรงพยาบาลศัลยกรรม-จัดซื้อเครื่องมือแพทย์-ชำระเงินกู้ยืม-ทุนหมุนเวียน
วันที่ 6 ตุลาคม 2566 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเตติก คอนเนค จำกัด (มหาชน) หรือ TRP ผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลด้านคลินิกเวชกรรม ภายใต้ชื่อ “ธีรพรคลินิก” ผู้ให้บริการศัลยกรรมความงามเฉพาะใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส ไทย และหลายชาติ ออกแถลงการณ์ร่วม เรียกร้องปล่อยตัวประกันในกาซา
พร้อมแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้รับจากการเสนอขายหลักทรัพย์ไปใช้เพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ เช่น การก่อสร้างโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้า พื้นที่รวมกว่า 9,918 ตร.ม. จากเดิมที่มีพื้นที่ให้บริการเพียง 1,157 ตร.ม. จัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ นำไปชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจการให้บริการศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้าที่เติบโตตามจำนวนผู้ใช้บริการทั้งชาวไทยและต่างประเทศ
ปัจจุบัน “ธีรพรคลินิก” เป็นผู้ให้บริการศัลยกรรมความงามเฉพาะบนใบหน้าแก่บุคคลทั่วไป ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า ให้บริการศัลยกรรมเฉพาะจุดด้วยนวัตกรรมการผ่าตัดที่เป็นเทคนิคเฉพาะของธีรพร
เช่น การทำศัลยกรรมดึงหน้า (FACE-LOCK), การผ่าตัดศัลยกรรมตาสองชั้น (EYE-LOCK) และการเสริมจมูกด้วยไขมันตัวเอง (FAT STEM CELL) ที่คิดค้น วิจัยและพัฒนา โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ มาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา
“TRP พร้อมแล้วที่จะก้าวสู่การเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย รองรับการให้บริการศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้าที่มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากเทรนด์การดูแลสุขภาพและความงาม รวมถึงการเข้าสู่สังคมสูงอายุ การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการต่อยอดศักยภาพและขยายธุรกิจให้แข็งแกร่ง เพื่อการเติบโตของบริษัทอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน” ซีอีโอกล่าว
นายกิตติพันธ์ ภูษณวรรณ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย TRP กล่าวว่า TRP ได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 90 ล้านหุ้น กำหนดราคาเสนอขายหุ้นละ 14 บาท บาท คิดเป็นมูลค่าเสนอขาย 1,260 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท กำหนดจองซื้อระหว่างวันที่ 10-12 ตุลาคม 2566 และคาดว่าหุ้นของบริษัทจะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจบริการ (Service) ในปลายเดือนตุลาคมนี้ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ ว่า “TRP”
ทั้งนี้ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 21.12 เท่า นับเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง สอดคล้องกับสภาวะของตลาดในปัจจุบันและอัตราการเติบโตของบริษัทในอนาคต
นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการดำเนินธุรกิจของทีมผู้บริหาร TRP เพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศในการเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย รองรับตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และตอกย้ำการเป็นผู้ที่ให้บริการศัลยกรรมความงามบนใบหน้าแก่บุคคลทั่วไปในระดับชั้นแนวหน้าของประเทศ
โดยมั่นใจว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็น TRP เป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง เป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับทิศทางเมกะเทรนด์โลก และมีศักยภาพการเติบโตต่อเนื่อง โดยผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี (2563-2565) บริษัทมีรายได้รวม 221.60 ล้านบาท 427.76 ล้านบาท และ 854.07 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 37.15 ล้านบาท 112.68 ล้านบาท และ 270.27 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรก ในปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 369.05 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 105.48 ล้านบาท จึงมองว่า TRP เป็นหุ้นเติบโต (Growth Stock) และหุ้นปันผล (Stock Dividend) อีกทั้งกระแสตอบรับการจัดโรดโชว์นำเสนอข้อมูลหลักทรัพย์ให้กับนักลงทุน ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่มีนักลงทุนให้ความสนใจเข้าฟังข้อมูลเป็นจำนวนมาก โดยต่างมองเห็นศักยภาพการเติบโตที่มีความแข็งแกร่งของบริษัทและมีความสนใจอยากเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตไปกับ TRP