ตลาดหลักทรัพย์จี้ MORE แจงสาเหตุ “ปล่อยกู้-ลงทุน” 357 ล้าน ภายใน 24 ต.ค.นี้

MORE

ตลาดหลักทรัพย์ฯจี้บอร์ด MORE แจงสาเหตุ “ปล่อยกู้-ลงทุน-จ่ายค่าซื้อหุ้น” วงเงินรวม 357 ล้านบาท หลังโชว์ในงบการเงิน 6 เดือนแรกปี’66 ภายใน 24 ต.ค.นี้ เตือนนักลงทุนขอให้ศึกษาข้อมูลงบการเงินและติดตามคำชี้แจงนี้ด้วย

วันที่ 9 ตุลาคม 2566 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รายงานว่าตลาดหลักทรัพย์ฯได้ขอให้ บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) ชี้แจงข้อมูลในงบการเงินงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 เกี่ยวกับรายการเงินให้กู้ยืมระยะสั้นแก่บริษัทร่วม การรับคืนเงินมัดจำค่าสิทธิค้างรับจากบริษัทร่วมดังกล่าว เงินลงทุนจ่ายล่วงหน้า เงินมัดจำค่าซื้อหุ้น และเงินลงทุนในหลักทรัพย์ต่าง ๆ รวม 357 ล้านบาท (คิดเป็น 20% ของส่วนของผู้ถือหุ้น)

ทั้งนี้ให้ชี้แจงข้อมูลผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 24 ต.ค. 2566 และขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลงบการเงินของ MORE และติดตามคำชี้แจงของบริษัทดังนี้

1.เงินให้กู้ยืมระยะสั้นแก่บริษัทร่วม และเงินมัดจำค่าสิทธิค้างรับจาก MORE MONEY : ในระหว่างงวด 6 เดือนปี 2566 บริษัทมีเงินให้กู้ยืมระยะสั้นแก่บริษัทร่วม 149 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีบริษัทร่วมเพียงแห่งเดียวที่ยังคงประกอบธุรกิจ คือ MORE MONEY (ถือหุ้น 25% ทำธุรกิจจัดการแสดงคอนเสิร์ต) ทั้งนี้ MORE MONEY มีทุนชำระแล้ว 2.5 ล้านบาท และจากข้อมูลในงบการเงินไม่ปรากฏส่วนแบ่งกำไรขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม

นอกจากนี้ บริษัทได้จ่ายเงินมัดจำค่าสิทธิการจัดคอนเสิร์ต ROLLING LOUD จำนวน 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา (ประมาณ 50 ล้านบาท) โดย ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2565 บริษัทเรียกเก็บเงินมัดจำค่าสิทธิคืนจาก MORE MONEY แต่ยังคงแสดงรายการยอดคงค้างภายใต้ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น-บริษัทร่วม

Advertisment

ประเด็นที่ขอให้บริษัทชี้แจง : เหตุผลและความจำเป็นในการให้กู้ยืมระยะสั้นแก่บริษัทร่วม และการประเมินความสามารถในการชำระหนี้และความคืบหน้าในการเรียกเก็บเงินมัดจำค่าสิทธิ

2.เงินลงทุนจ่ายล่วงหน้า เงินมัดจำ ค่าซื้อหุ้น และการลงทุนในตราสารทุน : โดยจากข้อมูลในงบการเงินปรากฏรายการลงทุนที่สำคัญดังนี้

2.1 เงินลงทุนจ่ายล่วงหน้าในโครงการ “Grand Ratchada” จำนวน 100 ล้านบาท ในเดือน มิ.ย. 2566 โดยคณะกรรมการบริหารมีมติพิจารณาเข้าลงทุนในโครงการดังกล่าว 2 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 50 ล้านบาท โดยจ่ายชำระเงินล่วงหน้าทั้งจำนวนแล้ว ซึ่งโครงการดังกล่าวมีเงินลงทุนรวม 1,550 ล้านบาท

2.2 การลงทุนตราสารทุน-หลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จำนวน 38 ล้านบาท ในเดือน พ.ค. 2566 โดยคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้เปิดบัญชีกับบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งเพื่อใช้ในการซื้อขายหลักทรัพย์วงเงิน 100 ล้านบาท

Advertisment

2.3. เงินวางมัดจำค่าซื้อหุ้น 20 ล้านบาท ในเดือน เม.ย. 2566 โดยฝ่ายบริหารของบริษัททำบันทึกข้อตกลงการซื้อขายหุ้นสามัญจากบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกัน โดยกำหนดราคาซื้อขายไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท โดยวางเงินมัดจำบางส่วน และนำเรื่องการเข้าลงทุนเพื่อขออนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการในภายหลัง

ประเด็นที่ขอให้บริษัทชี้แจง : แหล่งเงินทุนที่ใช้ในการลงทุน หลักเกณฑ์และข้อมูลประกอบการพิจารณาจ่ายเงินลงทุนล่วงหน้าทั้งจำนวน หลักเกณฑ์การวางมัดจำค่าซื้อหุ้น เหตุผล ความเหมาะสมและความสอดคล้องของการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับวัตถุประสงค์การทำธุรกิจของบริษัท รวมถึงการดำเนินการตามอำนาจอนุมัติที่เกี่ยวข้อง

รวมทั้งขอให้อธิบายข้อมูลที่คณะกรรมการและคณะกรรมการตรวจสอบใช้ในการประกอบการพิจารณา พร้อมเหตุผลของคณะกรรมการในการอนุมัติทำรายการว่าได้พิจารณาอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผลการดำเนินงาน สภาพคล่อง และฐานะการเงินของบริษัทอย่างไร