คปภ.เปิดรับสมัครรองเลขาธิการด้าน “กำกับ-กฎหมาย” 17 พ.ย.-8 ธ.ค.

คปภ.

สำนักงาน คปภ. หน่วยงานกำกับธุรกิจประกันภัย ภายใต้กระทรวงการคลัง เปิดรับสมัครรองเลขาธิการด้าน “กำกับ-กฎหมาย คดีคุ้มครองสิทธิประโยชน์” ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย.-8 ธ.ค. 2566 จนถึง 16.30 น.

วันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) รายงานว่าสำนักงาน คปภ. มีความประสงค์จะรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการพิจารณาคัดเลือกและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • รองเลขาธิการ ด้านกำกับ
  • รองเลขาธิการ ด้านกฎหมาย คดี และคุ้มครองสิทธิประโยชน์

โดยหน้าที่ความรับผิดชอบของรองเลขาธิการ ด้านกำกับ มีหน้าที่ความรับผิดชอบช่วยเลขาธิการ คปภ. ในการปฏิบัติหน้าที่ตามที่เลขาธิการ คปภ. มอบหมาย บริหารจัดการกิจการและการดำเนินงานของสำนักงาน คปภ. ด้านกำกับ รองจากเลขาธิการ คปภ. เพื่อให้บรรลุซึ่งวัตถุประสงค์ของสำนักงาน คปภ. และดำเนินการใด ๆ ตามอำนาจหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย ข้อบังคับ และนโยบายที่คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และเลขาธิการ คปภ. กำหนด

โดยหน้าที่ความรับผิดชอบของรองเลขาธิการ ด้านกฎหมาย คดี และคุ้มครองสิทธิประโยชน์ รองเลขาธิการด้านกฎหมาย คดี และคุ้มครองสิทธิประโยชน์ มีหน้าที่ความรับผิดชอบช่วยเลขาธิการ คปภ. ในการปฏิบัติหน้าที่ตามที่เลขาธิการ คปภ. มอบหมาย บริหารจัดการกิจการและการดำเนินงานของสำนักงาน คปภ. ด้านกฎหมาย คดี และคุ้มครองสิทธิประโยชน์

รองจากเลขาธิการ คปภ. เพื่อให้บรรลุซึ่งวัตถุประสงค์ของสำนักงาน คปภ. และดำเนินการใด ๆ ตามอำนาจหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย ข้อบังคับ และนโยบายที่คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และเลขาธิการ คปภ. กำหนด

คุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร

  • มีสัญชาติไทย
  • มีอายุไม่เกินหกสิบปีบริบูรณ์
  • สามารถทำงานให้แก่สำนักงาน คปภ. ได้เต็มเวลา

คุณสมบัติเฉพาะของผู้สมัคร

  • สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรีจากสถาบันการศึกษาที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนรับรอง โดยผู้สมัครตำแหน่งรองเลขาธิการ ด้านกฎหมาย คดี และคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรีด้านกฎหมายจากสถาบันการศึกษาที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนรับรอง
  • มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องธุรกิจประกันภัยเป็นอย่างดี
  • มีความรู้และทักษะด้านภาษาอังกฤษในระดับดีมีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการบริหารจัดการองค์กรตามกรณีใดกรณีหนึ่ง ดังนี้

(ก) ในกรณีที่เป็นพนักงานสำนักงาน คปภ. ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้ช่วยเลขาธิการมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี (ข) ในกรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารส่วนราชการ ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าตำแหน่งประเภทอำนวยการระดับสูงมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี

(ค) ในกรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารหน่วยงานอื่นของรัฐหรือองค์กรระหว่างประเทศ ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าสองระดับถัดจากผู้บริหารสูงสุดขององค์กรมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี (ง) ในกรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารองค์กรเอกชนหรือผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าสองระดับถัดจากผู้บริหารสูงสุดขององค์กรที่บริหารเงินและสินทรัพย์ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี และมีประสบการณ์ในด้านธุรกิจการเงินหรือประกันภัย ไม่ต่ำกว่า 12 ปี

ลักษณะต้องห้ามของผู้สมัคร

  • เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
  • เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
  • เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกไม่ว่าจะได้รับโทษจำคุกจริงหรือไม่ เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ หรือพ้นโทษหรือพ้นระยะเวลารอการลงโทษหรือรอการกำหนดโทษแล้ว
  • เป็นกรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลผู้มีอำนาจในการบริหารหรือจัดการบริษัทประกันภัย
  • เป็นตัวแทนประกันภัย นายหน้าประกันภัย ผู้ประเมินวินาศภัย ที่ปรึกษาบริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันวินาศภัย หรือกิจการที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย ซึ่งมีผลประโยชน์ทับซ้อน ผลประโยชน์ขัดกัน หรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับกิจการดังกล่าว
  • เป็นข้าราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นของรัฐหรือของราชการส่วนท้องถิ่น
  • เป็นหรือเคยเป็นข้าราชการการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น เว้นแต่จะได้พ้นจากตำแหน่งมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
  • เป็นหรือเคยเป็นกรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งอื่นในพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ ของพรรคการเมือง เว้นแต่จะได้พ้นจากตำแหน่งมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
  • เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจหรือจากหน่วยงานของเอกชน เพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง
  • เป็นกรรมการหรือผู้บริหารหรือผู้มีอำนาจในการจัดการหรือมีส่วนได้เสียอย่างมีนัยสำคัญในนิติบุคคลซึ่งมีประโยชน์ได้เสียเกี่ยวข้องกับกิจการของสำนักงาน คปภ. เช่น นิติบุคคลที่เข้าเป็นคู่สัญญาทางธุรกิจ หรือกำลังจะเป็นคู่สัญญาทางธุรกิจกับสำนักงาน คปภ. อันมีลักษณะที่ก่อให้เกิดประโยชน์ขัดแย้งกับการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงาน คปภ.

โดยคณะกรรมการคัดเลือกรองเลขาธิการเป็นผู้พิจารณาคัดเลือกและเสนอรายชื่อผู้ที่มีความเหมาะสมให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ ด้านกำกับ และรองเลขาธิการ ด้านกฎหมาย คดี และคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงาน คปภ. ต่อคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนสำนักงาน คปภ. มีคำสั่งแต่งตั้ง

สำหรับอัตราเงินเดือน และผลประโยชน์ตอบแทนอื่น ให้รองเลขาธิการด้านกำกับ และรองเลขาธิการด้านกฎหมาย คดี และคุ้มครองสิทธิประโยชน์ ของสำนักงาน คปภ. ได้รับเงินเดือนและประโยชน์ตอบแทนอื่นตามที่คณะอนุกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนกำหนด โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย

สำหรับเอกสารหลักฐานประกอบการสมัคร

  • ใบสมัคร พร้อมประวัติส่วนบุคคล
  • รูปถ่ายหน้าตรง ไม่สวมหมวก ขนาด 2 นิ้ว (ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน)
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สำเนาหลักฐานแสดงวุฒิการศึกษา
  • สำเนาหลักฐานแสดงความสามารถทางภาษาอังกฤษ หรือการผ่านการอบรมหลักสูตรที่เป็นภาษาอังกฤษ หรือการผ่านการศึกษาดูงานในต่างประเทศ

และมีหนังสือรับรองจากองค์กรหรือเอกสารหลักฐานอื่น เพื่อแสดงคุณสมบัติ และมีเอกสารหรือหลักฐานแสดงผลงานหรือประสบการณ์ในการบริหารงานที่ผ่านมา และมีเอกสารแสดงวิสัยทัศน์ด้านการประกันภัยเป็นภาษาไทย ความยาวไม่เกิน 1 หน้ากระดาษ (A4) ตัวอักษร TH SarabunPSK ขนาด 16 โดยผู้สมัครต้องลงนามรับรองเอกสารทุกฉบับ และจัดส่งเอกสารหลักฐานประกอบการสมัครตามวิธีการสมัครที่สำนักงาน คปภ. กำหนด

วิธีการสมัคร

ผู้สนใจสมัครเข้ารับการคัดเลือก สามารถยื่นใบสมัครได้ตามช่องทาง ดังต่อไปนี้

  • กรณียื่นใบสมัครทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์

ผู้สนใจสมัครเข้ารับการคัดเลือกสามารถกรอกข้อมูลการสมัครได้ทางเว็บไซต์สำนักงาน คปภ. https://www.oic.or.th และเมื่อสำนักงาน คปภ. ได้รับข้อมูลการสมัครเข้ารับการคัดเลือกแล้ว จะจัดส่งเอกสารใบสมัครเพื่อยืนยันการสมัครเข้ารับการคัดเลือกและให้ผู้สมัครลงลายมือชื่อ พร้อมจัดส่งคู่มือแนะนำการส่งเอกสารหลักฐานประกอบการสมัครให้ทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้สมัคร

ผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกจะต้องจัดส่งไฟล์เอกสารหลักฐานประกอบการสมัครในรูปแบบไฟล์ PDF ตามรายละเอียดที่แจ้งทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้สมัคร

ผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกสามารถกรอกข้อมูลการสมัครเข้ารับการคัดเลือกและจัดส่งไฟล์เอกสารหลักฐานประกอบการสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เวลา 08.30 น. ถึงวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เวลา 16.30 น. หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวจะไม่รับพิจารณา

  • กรณียื่นใบสมัครด้วยตนเอง

ผู้สนใจสมัครเข้ารับการคัดเลือกสามารถพิมพ์ใบสมัครได้ทางเว็บไซต์ สำนักงาน คปภ. https://www.oic.or.th และยื่นใบสมัคร พร้อมเอกสารหลักฐานประกอบการสมัคร โดยปิดผนึกและจ่าหน้าซองถึงเลขาธิการ คปภ. และให้มายื่นด้วยตนเองที่ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ชั้น 5 สำนักงาน คปภ. ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร

ผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกจะต้องจัดทำเอกสารหลักฐานประกอบการสมัคร จำนวน 6 ชุด และจัดเอกสารใส่ซองแยกเป็น 2 ซอง คือ ซองเอกสารหลักฐานประกอบการสมัคร และซองเอกสารแสดงวิสัยทัศน์ด้านการประกันภัย

ผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกสามารถยื่นใบสมัครและเอกสารหลักฐานประกอบการสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เวลา 08.30 น. ถึงวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เวลา 16.30 น. หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวจะไม่รับพิจารณา

ทั้งนี้การพิจารณาคัดเลือก โดยคณะกรรมการคัดเลือกรองเลขาธิการจะพิจารณาข้อมูลใบสมัคร และเอกสารหลักฐานประกอบการสมัคร พร้อมประเมินผลเบื้องต้นเกี่ยวกับความพร้อมและความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ ด้านกำกับ และรองเลขาธิการด้านกฎหมาย คดี และคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงาน คปภ. จากข้อมูลที่ได้รับ

จากนั้นจะเชิญผู้สมัครที่ผ่านการประเมินผลเบื้องต้นมาทำการสอบสัมภาษณ์ตามวัน เวลาและสถานที่ ซึ่งจะแจ้งให้ทราบต่อไป โดยในการสอบสัมภาษณ์จะพิจารณาจากความเหมาะสม ความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ ความรู้ความสามารถ วิสัยทัศน์ ทัศนคติต่อองค์กร ภาวะผู้นำ วุฒิภาวะทางอารมณ์ เชาว์ปัญญาไหวพริบ การปรับตัวและมนุษยสัมพันธ์ ของผู้สมัครประกอบกัน

ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงาน คปภ. หมายเลขโทรศัพท์ 08-1174-8898 ในวันและเวลาทำการ หรือทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ [email protected] หรือสามารถเรียกดูข้อมูลได้ที่เว็บไซต์สำนักงาน คปภ. https://www.oic.or.th

อนึ่ง สำนักงาน คปภ. จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย พ.ศ. 2550 โดยมีวัตถุประสงค์ในการกำกับ ส่งเสริม และพัฒนาการประกอบธุรกิจประกันภัย ตลอดจนเสริมสร้างให้ระบบประกันภัยเป็นกลไกสร้างหลักประกันความมั่นคงแก่ประชาชนและพร้อมรับความท้าทายในอนาคต