
คอลัมนิสต์ดัง “หนุ่มเมืองจันท์” ตั้งคำถามถึง “แบงก์ชาติ” รู้สึกอย่างไร เมื่อแบงก์พาณิชย์กำไรทะลุ 2.2 แสนล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์
วันที่ 7 มกราคม 2567 หลังจากประชาชาติธุรกิจนำเสนอข่าว ”แบงก์กำไรสูงสุด 2.2 แสนล้านอานิสงส์ดอกเบี้ยขาขึ้น-BBL แชมป์“ คอลัมน์นิสต์ชื่อดังเจ้าของนามปากกา “หนุ่มเมืองจันท์” ได้โพสต์เพซบุ๊ก ระบุว่า เห็นพาดหัวข่าวของ ”ประชาชาติธุรกิจ“ วันนี้แล้วอึ้งเลยครับ
ผมไม่รู้ว่า “แบงก์ชาติ” จะรู้สึกตะหงิดอะไรในใจบ้างไหม
หนุ่มเมืองจันท์ ระบุว่า ถ้าเศรษฐกิจดี ประชาชนมีกำลังซื้อ พ่อค้าแม่ค้าขายของได้ ทุกธุรกิจมีกำไรเพิ่มขึ้น
ธุรกิจแบงก์ที่เปรียบเสมือน “หัวใจ” สูบฉีดเลือดหรือเงินไปเลี้ยงร่างกาย หรือภาคธุรกิจจะมีกำไรในสถานการณ์แบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติ
ร่างกายดี หัวใจก็ควรจะแข็งแรง
แต่สถานการณ์เศรษฐกิจในวันนี้แย่มาก แบงก์ชาติเพิ่งปรับลด GDP ปี 2566 จาก 3.6% เหลือ 2.4%
พ่อค้าแม่ค้าบ่นว่าขายของไม่ดี
ธุรกิจเอสเอ็มอี 11 เดือนที่ผ่านมาของปี 2566 เลิกกิจการ 17,858 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ถึง 11% รถยนต์ถูกยึดเดือนละ 27,000 คัน เพราะคนผ่อนไม่ไหว
รวมทั้งคนที่ยื่นเรื่องขอกู้ซื้อบ้านถูกแบงก์ปฏิเสธประมาณ 50%
แต่ถ้าเป็นบ้านหรือคอนโดมิเนียมราคา 1-3 ล้านบาท อัตราการกู้ไม่ผ่านสูงถึง 70%
เหตุผลส่วนหนึ่งมาจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทำให้ค่าผ่อนบ้านต่อเดือนสูงขึ้น ในขณะที่เงินเดือนเท่าเดิม
แบงก์ไม่ปล่อยกู้เพราะกลัวหนี้เสีย
โดยลำพังแค่เศรษฐกิจไม่ดี แต่แบงก์กำไรเพิ่มขึ้นก็ถือว่าผิดปกติแล้ว เหมือนร่างกายอ่อนแอ แต่หัวใจกลับแข็งแรง
พอมาดูเหตุผลว่าทำไมแบงก์ไทยทำกำไรได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ยิ่งน่าเกลียด
เพราะกำไรที่สูงลิ่วของแบงก์
มาจาก “การเพิ่มขึ้นของส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ” หรือ NIM
หมายความว่า ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น
แบงก์ก็ขยับ “ส่วนต่าง” ของดอกเบี้ยเงินฝากกับเงินกู้ของแบงก์ไทยเพิ่มขึ้นจากเดิม
จ่ายดอกเบี้ยคนฝากเงินน้อย ๆ แต่ให้กู้แพง ๆ ทำกำไรแบบง่าย ๆ
หนุ่มเมืองจันท์ตั้งคำถามว่า หน่วยงานกำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ คือธนาคารแห่งประเทศไทยเหมือนคุณหมอที่ดูแลเรื่อง “หัวใจ”
ถ้าการทำงานของ “หัวใจ” ผิดปกติแบบนี้จะไม่คิดทำอะไรบ้างหรือครับ หรือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ เพราะเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว