ตัวเลขส่งออกติดลบ 5.2% ครั้งแรกในรอบ 19 เดือน ฉุดหุ้นไทยร่วงต่อ

นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมภาวะตลาดหุ้นไทยวันที่ 22 ต.ค.61 ดัชนีผันผวนอยู่ในแดนลบเป็นหลัก โดยถูกกดดันจากปัจจัยต่างประเทศ ประกอบกับวันนี้ยังได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายในประเทศหลังจากตัวเลขส่งออกประกาศออกมาติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 19 เดือน ซึ่งติดลบอยู่ที่ -5.2% ในขณะที่ตลาดคาดว่าจะบวกถึง +5.4% ถือว่าส่งผลกระทบฉุด SET ปรับลดลงค่อนข้างมาก โดยปัจจัยหลักๆ คงมาจากปัญหาสงครามการค้าที่น่าจะเริ่มเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น จึงมองว่าน่าจะมีส่วนกดดันเพิ่มเติมจากเดิมที่มีแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติเยอะอยู่แล้ว ทำให้ดัชนีฯวันนี้ ปิดตลาดที่ 1,658.56 จุด ลดลง 9.35 จุด หรือ -0.56% โดยมีปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 40,735.29 ล้านบาท

ส่วนทิศทางตลาดในวันพุธที่ 24 ต.ค.61 ประเมินว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในภาวะซบเซา ซึ่งดัชนีมีโอกาสทดสอบระดับแนวรับที่ 1,650 จุด ซึ่งอาจจะมีเทคนิคคอลรีบาวน์ที่อาจจะทำให้ดัชนีสามารถดีดตัวกลับขึ้นมาได้ แต่ไม่ได้คาดหวังการพุ่งขึ้นมาเยอะมาก เพราะว่าช่วงนี้ปัจจัยเชิงบวกไม่ได้ดูโดดเด่นมาก จึงคงต้องเทรดตาม Sentiment ข้างนอกเป็นหลัก ตอนนี้มีความกังวลในหลายปัจจัย แต่ว่าคงต้องขึ้นอยู่กับผู้ดำเนินนโยบายว่าจะมีอะไรออกมา เช่น ประเทศจีนที่มีการออกมาตรการพยุงหุ้น ซึ่งช่วยเซนติเมนต์ได้ค่อนข้างดีหนุนดัชนีปิดบวกไปได้ 4%

อย่างไรก็ตามให้กรอบดัชนีเคลื่อนไหวบริเวณแนวรับที่ 1,650 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,670 จุด แนะนำกลยุทธ์ลงทุนช่วงนี้ “รอซื้อ” ดัชนีบริเวณ 1,650 จุด

ทั้งนี้ต้องติดตามตัวเลขจีดีพีของสหรัฐในช่วงท้ายสัปดาห์นี้ ซึ่งคงจะมีผลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด ซึ่งอาจจะกดดันตลาดหุ้นไทยได้