วายแอลจี บูลเลี่ยนฯ รายงานราคาทองคำ วันที่ 24 ธ.ค. 2561

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวลดลง 4.06 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำถูกแรงขายทำกำไรกดดันให้อ่อนตัวลง ประกอบกับดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดในรอบ 1 เดือนจนสร้างแรงกดดันเพิ่มเติมให้กับทองคำ อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงหลีกเลี่ยงความเสี่ยง (risk-off) สะท้อนจากตลาดหุ้นสหรัฐที่เคลื่อนไหวในแดนลบ นอกจากนี้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยยังได้รับแรงหนุนเพิ่ม หลังจากหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐเผชิญกับความเสี่ยงที่จะถูกปิดทำการชั่วคราว (ชัตดาวน์) หลังจากที่วุฒิสภาสหรัฐมีแนวโน้มจะไม่อนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณที่เพิ่งผ่านการรับรองจากสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีบรรจุงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกเอาไว้ ส่งผลให้ทองคำในวันศุกร์ปรับตัวลดลงในกรอบ ด้านกองทุน SPDR เพิ่มการถือครองทองคำในวันศุกร์ +3.53 ตัน ขณะที่เช้าวันนี้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นมาเคลื่อนไหวไม่ไกลจากระดับสูงสุดในรอบเกือบ 6 เดือนอีกครั้ง หลังรัฐบาลสหรัฐได้เข้าสู่ภาวะชัตดาวน์ตั้งแต่พ้นเที่ยงคืนวันศุกร์ที่ 21 ธ.ค.ตามเวลาสหรัฐจริงดังคาด สำหรับวันนี้ปริมาณการซื้อขายอาจเบาบางกว่าปกติเนื่องจากตลาดเงิน ตลาดทุนของสหรัฐและตลาด COMEX จะปิดทำการเร็วกว่าเวลาปกติเนื่องในวัน Christmas Eve แต่แนะนำติดตามผลการประชุมแบบ pro forma ของวุฒิสภาสหรัฐซึ่งเป็นการประชุมย่อยเกี่ยวกับประเด็นงบประมาณ

ปัจจัยทางเทคนิก

หากราคาทองคำพยายามขึ้นไปทดสอบแนวต้านในโซน 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้แสดงถึงแรงเข้าซื้อในระยะสั้น หากยืนได้แข็งแกร่งทำให้ประเมินว่าในระยะสั้น ยังคงมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1,278 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่แนวรับนั้นอยู่ในบริเวณ 1,256-1,249 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน

ราคาทองคำมีจุดเปิดสถานะซื้อระยะสั้นในบริเวณ 1,256-1,249 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้) แต่หากราคาดีดตัวขึ้นไปก่อนให้พิจารณาบริเวณ 1,266-1278 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นจุดเสี่ยงเปิดสถานะขาย แต่หากผ่านโซนดังกล่าวแนะนำให้ชะลอการเปิดสถานะขายออกไป