โค้งสุดท้ายปี 2561…เปลี่ยน Mood & Tone เศรษฐกิจโลกปี 2562

คอลัมน์ เลียบรั้วเลาะโลก

โดย ขวัญใจ เตชเสนสกุล EXIM BANK

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันไรก็จะเข้าสู่ช่วงท้ายของปี 2561 แล้ว หลายท่านคงเหนื่อยล้ากับการทำงานมาตลอดทั้งปี และกำลังวางแผนไปเที่ยวพักผ่อนในช่วงปีใหม่กัน

อย่างไรก็ตาม หากพูดถึงเศรษฐกิจโลกในช่วงโค้งสุดท้ายกลับไม่มีทีท่าจะหยุดพัก แต่กลับเข้มข้นขึ้นเป็นลำดับ โดยมีหลายเหตุการณ์สำคัญที่เปลี่ยนอารมณ์ของตลาดและแนวโน้มเศรษฐกิจโลกปี 2562 ในหลายมิติ ดังนี้

– สงครามการค้าโลก จากตาต่อตา ฟันต่อฟัน สู่การพักรบ ซึ่ง “สงครามการค้า” ถือเป็นความเสี่ยงอันดับ 1 ที่กดดันเศรษฐกิจโลกมาตั้งแต่ต้นปี 2561 จากการปรับขึ้นภาษีนำเข้าตอบโต้กันระหว่างสหรัฐและจีน ที่หลายฝ่ายมองว่าอาจยืดเยื้อและมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น จนนำไปสู่ยุคมืดของการค้าโลกอีกครั้งก็เป็นไปได้

อย่างไรก็ตาม ช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ในการประชุมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ (G20) ได้มีการเจรจานอกรอบระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐและจีน ซึ่งทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะชะลอการปรับขึ้นอัตราภาษีเพิ่มเติมระหว่างกันเป็นเวลา 90 วัน

ปัจจัยดังกล่าวแม้เป็นเพียงการพักรบชั่วคราว แต่ก็ถือเป็นการสร้างโมเมนตัมเชิงบวกครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี ให้กับบรรยากาศการค้าโลก ทำให้แนวโน้มการค้าโลกปี 2562 อาจไม่ได้แย่ไปทั้งหมดเหมือนที่หลายฝ่ายคาด โดยเฉพาะการส่งออกของไทยที่พึ่งพาทั้งสองตลาดข้างต้นถึง 22% ของมูลค่าส่งออกรวม

– อัตราดอกเบี้ยโลก จากการวิ่ง 4×100 สู่การวิ่งมาราธอน โดยเศรษฐกิจสหรัฐที่ฟื้นตัวขึ้นเป็นลำดับหลังวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เริ่มใส่คันเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องจาก 1 ครั้งในปี 2558 และอีกครั้งในปี 2559 ก่อนที่จะปรับขึ้นอีก 3 ครั้งในปี 2560 และคาดว่าจะเร่งขึ้นสูงสุดถึง 4 ครั้งในปี 2561 หลังเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวดีที่สุดในรอบ 12 ปี และอัตราว่างงานต่ำสุดรอบ 50 ปี

ขณะที่ในปี 2562 ก็มีการส่งสัญญาณผ่านรายงานการประชุม Fed เมื่อเดือนตุลาคมว่าจะมีการปรับขึ้นอีก 3 ครั้ง ไปอยู่ที่ระดับ 3.0-3.25% ซึ่งเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ประธาน Fed ได้กล่าวในงาน The Economic Club of New York ว่า อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐกำลังเข้าใกล้ระดับที่เป็นกลาง (ระดับที่จะไม่กระตุ้นหรือชะลอการขยายตัวทางเศรษฐกิจ)

นับเป็นครั้งแรกที่ประธาน Fed เปลี่ยนท่าทีที่จะลดความเร็วในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเหลือเพียง 2 ครั้งในปี 2562 ปัจจัยดังกล่าวน่าจะช่วยบรรเทาความกังวลด้านต้นทุนทางการเงินขาขึ้นในปี 2562 ของผู้ประกอบการได้บางส่วน และอาจช่วยลดแรงกดดันของเงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ที่มีพื้นฐานเศรษฐกิจเปราะบาง อาทิ อาร์เจนตินา ตุรกี รัสเซีย อินโดนีเซีย เป็นต้น หลังสกุลเงินประเทศต่าง ๆ ข้างต้นเผชิญแรงขายอย่างรุนแรงในช่วงไตรมาส 3 ปี 2561 จนทำให้เสถียรภาพการเงินและกำลังซื้อของประเทศสั่นคลอน ซึ่งกระทบต่อการส่งออกของไทยไปตลาดดังกล่าวอยู่พอสมควร

– ราคาน้ำมันโลก จากตลาดหมีจำศีล สู่ตลาดหมีตื่น ในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2561 ราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 ปี ที่ 87 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ได้ปรับลดลงเร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์ภายในเดือนเดียวกว่า 30% จากความกังวลเรื่องอุปทานน้ำมันส่วนเกินที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากสหรัฐที่ผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และอุปสงค์น้ำมันโลกที่ชะลอลงตามภาวะเศรษฐกิจโลก สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ราคาน้ำมันถูกคาดหมายว่าอาจกำลังเข้าสู่ตลาดหมี (bear market) อีกครั้งในปี 2562

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา การประชุม OPEC Plus ที่ประกอบด้วย OPEC และกลุ่ม nonOPEC นำโดยรัสเซีย ได้ตกลงกันปรับลดปริมาณการผลิตลง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งช่วยหนุนให้ราคาน้ำมันฟื้นตัวเกือบ 10% และทำให้โมเมนตัมราคาน้ำมันในปี 2562 อาจไม่ได้เลวร้ายอย่างที่หลายฝ่ายคาด ปัจจัยดังกล่าวจะช่วยหนุนให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ กระเตื้องขึ้นตาม และผลักดันให้การส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมันของไทย ซึ่งคิดเป็นกว่า 15% ของมูลค่าส่งออกรวมยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ดี

แม้หลายเหตุการณ์สำคัญในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2561 จะเปลี่ยนภาพกว้างของเศรษฐกิจโลก ปี 2562 จากโมเมนตัมเชิงลบให้เป็นบวกขึ้นมาบ้าง ซึ่งจะช่วยหนุนการส่งออกของไทยไม่มากก็น้อย แต่ในแนวลึกแล้ว เศรษฐกิจโลกก็ยังต้องเผชิญกับหลายปัจจัยเสี่ยงเช่นกัน อาทิ ความไม่แน่นอนของ Brexit การประท้วงไม่พอใจรัฐบาลในฝรั่งเศส ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตก เป็นต้น ดังนั้น ผู้ประกอบการต้องติดตามความเคลื่อนไหวต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อจะได้เตรียมเครื่องมือให้พร้อมรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และหาโอกาสให้ได้ก่อนคู่แข่ง

Disclaimer : คอลัมน์นี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับความคิดเห็นของ EXIM BANK

 

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat 

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!