หุ้น-การเงิน

เมืองไทยประกันชีวิตลุยปล่อยกู้ผ่านแอป-ไม่เกิน 5 หมื่นบาท

“เมืองไทยประกันชีวิต” จ่อปล่อยกู้เงินจากมูลค่าเงินสดในกรมธรรม์ผ่านแอป ดีเดย์ 29 เม.ย. เฟสแรกเปิดกู้สูงสุดไม่เกิน 5 หมื่นบาทต่อกรมธรรม์ “สาระ” ชี้เบี้ยรวม 2 เดือนแรกหดตัวตามภาวะตลาด เปิดฉากปรับใหญ่-รีแบรนดิ้ง

นางสาวฤทัย สุทธิกุลพานิช Head of Fuchsia บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต (MTL) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.นี้ บริษัทจะเปิดให้บริการขอกู้เงินตามกรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีมูลค่าเงินสดผ่านแอปพลิเคชั่น “MTL Smile App” ซึ่งเฟสแรกคาดว่าจะปล่อยกู้ได้สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาทต่อกรมธรรม์ โดยเงินจะถูกโอนเข้าบัญชีผู้เอาประกันโดยตรง กรณีเป็นบัญชีธนาคารกสิกรไทยหากกู้เงินหลังเที่ยงวัน (12.00 น.) ผู้กู้จะได้รับเงินภายใน 2 วัน แต่ในกรณีขอกู้ก่อนเที่ยงวันจะได้รับเงินภายใน 1 วัน ส่วนบัญชีธนาคารอื่น ๆ หากกู้หลังเที่ยงวันจะได้รับเงินภายใน 5 วัน แต่หากขอกู้ก่อนเที่ยงวันจะได้รับเงินภายใน 4 วัน

“เราปล่อยกู้เพื่อให้ผู้เอาประกันนำไปชำระเบี้ยประกัน หรือใช้รักษาสุขภาพ/เพื่อการศึกษาบุตร ซึ่งต้องให้ความรู้กับประชาชนเข้าใจวิธีการมาขอกู้มากขึ้น โดยอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 6-8% ต่อปี แล้วแต่แบบประกัน หลักๆ ที่มาขอกู้ผ่านสาขาจะเป็นโพรเท็กชั่น เพราะมีมูลค่าเงินสดเยอะ” นางสาวฤทัยกล่าว

นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต กล่าวว่า หลักการที่บริษัทเปิดให้ผู้เอาประกัน สามารถขอกู้ผ่านแอปพลิเคชั่นได้นั้น ก็เพื่อในกรณีฉุกเฉินหรือติดขัดเวลาเดินทางไปต่างประเทศ หรือไม่สะดวกในบางช่วง ถ้ากรมธรรม์มีมูลค่าเงินสดตามเกณฑ์ที่เซ็นไว้ในสัญญาจะสามารถนำเงินออกไปใช้ได้ทันที ซึ่งปัจจุบัน บริษัทมีพอร์ตเงินกูู้เกือบ 30,000 ล้านบาท คิดเป็น 5-6% ของสินทรัพย์รวม 5 แสนล้านบาท

นายสาระกล่าวถึงเรื่องการปรับโฉมองค์กรนับจากนี้ว่า ตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย. 62 เป็นต้นไป บริษัทได้ปรับเปลี่ยนวิธีทำงานแบบใหม่ในยุคดิสรัปทีฟบนพื้นที่การทำงานใหม่ ที่เรียกว่า “Transformation WorkPlace” ในชื่อ “The Garage by Muang Thai Life” เพื่อให้พนักงานได้ปฏิบัติงานในโครงการพิเศษต่างๆ และเป็นพื้นที่เสริมสร้างความสามารถที่รอบด้าน หรือเป็นมัลติสกิลมากขึ้น และนำมาซึ่งนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์ กระบวนการทำงาน และการให้บริการของบริษัท เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าแบบ Outside In เพราะการปรับเปลี่ยนครั้งนี้จะเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

“ขณะนี้ Good Idea มีเต็มไปหมด แต่จะทำให้เกิดขึ้นมาได้ยังไง เพราะฉะนั้น “The Garage by Muang Thai Life” เป็นเรื่องสำคัญมากที่จะให้แต่ละทีมมาออกแบบ Design Thinking ซึ่งโจทย์ที่ท้าทายที่สุดที่หลาย ๆ องค์กรเจอ คือ “Execution” ซึ่งจะต้องทำให้ออกมาให้ได้ เพราะฉะนั้นที่นี้จะเป็นที่รองรับในการเดินหน้าไปสู่โลกใหม่ รวมถึงต้องหันมาทำเรื่อง Culture และ Mindset ของคนในองค์กร ซึ่งทำออกมาแล้วต้องได้ Outcome ทั้งในระยะกลางและระยะยาว” นายสาระกล่าว

ทั้งนี้ หลังจากช่วง 15 ปีที่บริษัทได้เริ่มปรับตัวเข้าสู่การเป็นบริษัทของคนหัวคิดทันสมัยจนถึงวันนี้ ทำให้เห็นการเติบโตด้านเบี้ยรับรวมของบริษัทที่ขึ้นมาอยู่อันดับ 2 ของอุตสาหกรรมประกันชีวิต และมีสินทรัพย์มูลค่ารวมกว่า 5 แสนล้านบาท โดยผลดำเนินงานล่าสุด (2 เดือนแรกปี”62) บริษัทมีเบี้ยรับรวม 13,880 ล้านบาท หดตัว 14% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่อยู่ 16,090 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามการชะลอตัวของภาวะตลาด หลังจาก คปภ.กำหนด Market Conduct ที่ส่งผลต่อการขายประกัน

“จากนี้ MTL จะเป็นบริษัทที่เป็น everyday life partner ที่เชื่อมต่อกับลูกค้าทุกช่วงชีวิต การออกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะตัวมากขึ้น และการให้บริการที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกดี ทั้งเรื่องเคลม หรือแตะไปถึงการเจอคุณหมอที่ดี โดยจะใช้ Fuchsia และร่วมทุนสตาร์ตอัพเพื่อเอาบริการเหล่านั้นมาร่วมทำเป็น Cashless เพื่อตอบโจทย์คนเดินทางทั่วโลกไม่ต้องถือเงินสด (หากต้องเข้ารักษา) วันนี้เราจึงต้องบูตสิ่งที่ทำขึ้นมาให้ลึกขึ้น ภายใต้หัวใจสำคัญคือ “ดาต้า” ที่เรามี” นายสาระกล่าว

นอกจากการปรับวัฒนธรรมองค์กร บริษัทได้ทำการปรับภาพลักษณ์องค์กรครั้งใหญ่ (Brighten the Brand) ในรอบ 15 ปี โดยปรับโลโก้ใหม่และสีที่เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีสีชมพูบานเย็น รวมถึงชูสโลแกนใหม่ “Happiness Means Everything เพราะความสุขคือทุกอย่าง”และยังได้เปิดตัว “เอ็กซ์ตร้าแคร์พลัส” ประกันสุขภาพใหม่แบบเหมาจ่าย ซึ่งจะท็อปอัพจากสวัสดิการที่มีอยู่ ช่วยให้เบี้ยถูกกว่าความคุ้มครองทั่วไป เริ่มต้นจ่ายเบี้ยหลักพันบาท ได้ความคุ้มครองสูงถึงหลักแสนบาท เลือกค่าห้องได้สูงถึง 8,000 บาทต่อวัน เลือกความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลได้สูงสุดถึง 400,000 บาทต่อครั้ง ไม่ต้องสำรองจ่ายเมื่อเข้ารักษาพยาบาลในเครือข่าย 400 แห่งทั่วประเทศ พร้อมนำเบี้ยไปหักลดหย่อนภาษีได้