ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าหลังประธานเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย

ภาพประกอบข่าวดอลลาร์สหรัฐ
แฟ้มภาพ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม 2562 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (11/7) ที่ระดับ 30.65/67 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดในวันพุธ (10/7) ที่ระดับ 30.82/84 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ หลังเมื่อวาน (10/7) นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการบริหารการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะดำเนินนโยบายทางการเงินอย่างเหมาะสมเพื่อรักษาให้เศรษฐกิจสหรัฐยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงหลายปัจจัย เช่น ความตึงเครียดทางการค้าและความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก อีกทั้งการลงทุนของภาคธุรกิจในสหรัฐได้ชะลอตัวลงในช่วงที่ผ่านมา ท่ามกลางความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อกำลังปรับตัวต่ำกว่าเป้าหมายที่เฟดกำหนดไว้ที่ระดับร้อยละ 2 และมีความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อจะคงอยู่ในระดับต่ำได้นานกว่าที่ทางธนาคารกลาง ได้คาดการณ์ไว้

นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 18-19 มิถุนายน โดยระบุว่ากรรมการเฟดส่วนใหญ่ได้เห็นถึงความจำเป็นในการที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะใกล้นี้ เพื่อรับมือกับความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรับจะเผชิญจากภาวะถดถอยในอนาคตในวันเดียวกันนี้เอง นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมซึ่งจัดขึ้น ที่มหาวิทยาลัยวอชิงตัน โดยเรียกร้องให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย เขากล่าวว่า เฟดควรจะคำนึงถึงอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายของเฟดที่ร้อยละ 2 และเฟดจำเป็นต้องผลักดันให้การคาดการณ์เงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้น นายบูลลาร์ดยังมองว่า ความไม่แน่นอนด้านการค้ากำลังส่งผลให้การเติบโตของเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง และจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐในขณะเดียวกัน ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 30.56-30.67 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 30.58/60 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร ค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (11/7) ที่ระดับ 1.1261/63 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (10/7) ที่ระดับ 1.1222/24 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นจากแรงเทขายเงินดอลลาร์สหรัฐ จากคำแถลงการณ์ของนายเจอโรม พาวเวลต่อสภาคองเกรซเมื่อวาน (10/7) นอกจากนี้ระหว่างวัน มีรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคของเยอรมนี ประจำเดือนมิถุนายน ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 เมื่อเปรียบเทียบรายเดือน เท่ากับระดับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และของฝรั่งเศสปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 เมื่อเปรียบเทียบรายเดือน เท่ากับระดับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เช่นกัน ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1251-1.1281 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1265/67 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (11/7) ที่ระดับ 108.10/12 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (10/7) ที่ระดับ 108.88/90 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ เงินเยนแข็งค่าสวนทางกับเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ได้ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อสภาคองเกรซ ทั้งนี้่ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 107.88-108.47 เยน/
ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 108.18/20 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจ ในสัปดาห์นี้ได้แก้ ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐประจำเดือนมิถุนายน (11/7), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐ (11/7), การผลิตภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนพฤษภาคมของญี่ปุ่น (12/7), การผลิตภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนพฤษภาคมของสหภาพยุโรป (12/7), ดัชนีราคาผู้ผลิตประจำเดือนมิถุนายนของสหรัฐ (12/7)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -2.50/-2.25 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -3.50/-2.00 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ