“KTAM” ชี้เป้ากองทุนหุ้น AI ยีลด์สูง 22.39%

บลจ.กรุงไทยชี้เป้าลงทุนกองหุ้น AI ผ่านกองหลักจาก “Allianz Global Investors” ผลตอบแทน YTD สูงถึง 22.39% พร้อมชี้ช่องกองทุนสหรัฐฯ เน้นลงทุนสินทรัพย์ที่ให้รายได้สม่ำเสมอ-การเติบโตสูง

นายเคววิ่น แลม Head of Retail Distribution, South East Asia จาก Allianz Global Investors เปิดเผยในงานสัมมนา “มองเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการเติบโตเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์” จัดโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย ว่า ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนแนะนำการลงทุนในกองทุน Income and Growth Fund ที่ลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้รายได้และมีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ (Income and Growth) เนื่องจากกองทุนประเภทนี้มีจุดเด่นในการสร้างผลตอบแทนหรือรายรับได้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งมาจากการลงทุนใน 3 สินทรัพย์สำคัญ ได้แก่ หุ้นสหรัฐฯ และหุ้นกู้สหรัฐฯ ที่ให้ผลตอบแทนสูง (US High-Yield Bonds) รวมถึงหุ้นกู้สหรัฐฯ แบบแปลงสภาพ (US Convertible Bonds) เพื่อกระจายความเสี่ยง โดยผลตอบแทนในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 สูงถึง 12.93% ส่วนผลตอบแทนในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 7.8%

“ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงนี้ เรามองว่ายังไม่ได้เข้าสู่ภาวะถดถอย แม้ว่าตัวเลขการว่างงานจะยังมีอยู่ แต่ไม่ได้มากถึงขนาดที่จะส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ นอกจากนี้ การฟื้นตัวของค่าจ้างรายชั่วโมงของสหรัฐฯ ก็ยังปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเรียกได้ว่าสหรัฐฯ ยังอยู่ในช่วงภาวะกระทิง (Bullish) แต่ตอนนี้อาจจะวิ่งช้าลงเล็กน้อย ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ใน S&P 500 จากค่าเฉลี่ยการเคลื่อนไหวของกำไรในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา (ดูตาราง) พบว่า คาดการณ์ผลประกอบการของบจ.ใน S&P 500 ยังเหนือกว่า 1 จุด ซึ่งหมายความว่ามีแนวโน้มที่คาดการณ์กำไรบจ.จะปรับขึ้นมากกว่าที่จะปรับลง” นายเคววิ่น กล่าว

ขณะที่ผลประกอบการของบจ.สหรัฐฯ ปัจจุบันมีการประกาศออกมาประมาณ 23% จากจำนวนบจ.ทั้งหมด พบว่า ในช่วงไตรมาส 2 ผลประกอบการมีแนวโน้มค่อนข้างดี โดยผลการดำเนินงานกว่า 75% ของบจ.ที่ประกาศออกมามีรายได้ดีกว่าที่คาดการณ์ ซึ่งอาจส่งผลต่อให้มีการปรับประมาณการกำไรบจ.สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีก ดังนั้น บลจ.อลิอันซ์ โกลบอล อินเวสเตอร์ส จึงเชื่อว่าตลาดสหรัฐฯ ยังเป็นที่ที่เหมาะสำหรับการลงทุนอยู่

นายสตีเฟ่น จูย์ Director, Co-Portfolio Manager ของกองทุน Allianz Global Artificial Intelligence กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจในปัจจุบันยังไม่เห็นสัญญานของภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยมองว่าหากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง จะเป็นอีกแรงที่ช่วยกระตุ้นให้ธุรกิจต่างๆ กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องของการค้าโลกที่ชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา ในภาวะที่เศรษฐกิจยังมีความผันผวนมองว่าการลงทุนในกลุ่มบริษัทที่ได้นำหรือมีแผนจะนำ AI (ปัญญาประดิษฐ์) มาใช้ในการพัฒนาต่อยอดธุรกิจจึงมีความน่าสนใจ เนื่องจาก AI เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ โดยเข้ามาทำหน้าที่จัดการข้อมูลบิ๊กดาต้าเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป เช่น ในธุรกิจการแพทย์สามารถนำบิ๊กดาต้าไปใช้วิเคราะห์โรคต่างๆ ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น เป็นต้น

ส่วนการลงทุนในบริษัทกลุ่ม AI ปัจจุบันให้น้ำหนักกับกลุ่ม “AI-enabled Industries” หรือเป็นกลุ่มที่มีโอกาสนำ AI มาใช้ในการขยายธุรกิจให้เติบโต โดยไตรมาส 2/62 ทีผ่านมาเพิ่มน้ำหนักการลงทุนกลุ่มนี้มาอยู่ที่ 42% จากไตรมาสแรกที่ให้น้ำหนักการลงทุน 32% ขณะที่ลดน้ำหนักในกลุ่ม “AI Infrastructure” หรือกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยี เช่น ซอฟต์แวร์ และฮาร์ดดิส เป็นต้น เนื่องจากกังวลว่าจะได้รับผลกระทบจากปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน จึงมีการขายทำกำไรออกมาในบางส่วน อย่างไรก็ดี หากความตึงเครียดด้านสงครามการค้าลดลงและเฟดมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง คาดว่าจะส่งผลให้กลุ่มนี้กลับมาดีขึ้นในช่วงต้นปี 2563 ซึ่งกองทุนจะพิจารณาเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มนี้อีกครั้ง

“สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในกลุ่ม AI ควรเลือกกลุ่มบริษัทที่นำ AI มาใช้ในการพัฒนาระบบหลังบ้าน และควรจะเป็นกลุ่มธุรกิจทั่วไปที่ไม่ใช่กลุ่มธุรกิจที่ประกอบการด้านเทคโนโลยีโดยเฉพาะ เพื่อกระจายความเสี่ยงที่บริษัทจะได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงจากเรื่องของเทคโนโลยีโดยตรง นอกจากนี้ การเลือกลงทุนในบริษัททั่วไปที่นำ AI มาใช้ในการประกอบธุรกิจนั้น จะช่วยให้บริษัทสามารถพลิกโฉมธุรกิจให้ดีขึ้นได้ เพราะเราเชื่อว่า AI จะทำให้ทุกบริษัทแข็งแกร่งและเติบโตได้อย่างยิ่งใหญ่ ไม่ใช่เฉพาะบริษัทที่มีขนาดใหญ่เท่านั้นที่จะเติบโต” นายสตีเฟ่น กล่าว

ส่วนผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 กองทุน Allianz Global Artificial Intelligence อยู่ที่ 22.39% ขณะที่ผลตอบแทนในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 3.63% ทั้งนี้ กองทุน Alliaz Income and Growth Fund เป็นกองทุนรวมหลักที่กองทุน KT-IGF-A และกองทุน KT-IGF-R ลงทุนอยู่ในปัจจุบัน ส่วนกองทุน Allianz Global Artificial Intelligence Fund เป็นกองทุนรวมหลักที่กองทุน KT-WTAI ลงทุนอยู่ในปัจจุบันเช่นกัน