วายแอลจี บูลเลี่ยนฯ รายงานราคาทองคำ วันที่ 3 ต.ค. 2562

บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานราคาทองคำ วันที่ 3 ต.ค. 2562 และแนวโน้มการซื้อขายทองคำ

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวานนี้ทะยานขึ้น 20.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากความวิตกว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอนาคต หลังจากตัวเลข PMI ภาคการผลิตจาก ISM ออกมาแย่เกินคาดและแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี ความวิตกดังกล่าวถูกตอกย้ำด้วยการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP ที่ออกมาแย่เกินคาดเช่นกัน นั่นทำให้เทรดเดอร์ปรับเพิ่มการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะ“ลด”ดอกเบี้ยในการประชุมเดือนต.ค.นี้ สะท้อนจาก FedWatch ของ CME ที่บ่งชี้ว่า บรรดาเทรดเดอร์คาดการณ์ว่า มีโอกาสถึง 77.5% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนต.ค.นี้ เพิ่มขึ้นจากระดับ 41.2% ในช่วงต้นสัปดาห์จึงเป็นส่วนหนึ่งที่กดดันสกุลเงินดอลลาร์ให้อ่อนค่าลง นอกจากนี้แล้วความวิตกดังกล่าวยังกดดันให้ตลาดหุ้นถูกเทขายอย่างหนัก จนดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงเกือบ 500 จุด พร้อมกับกระตุ้นแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยในวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็นทองคำ, เงินเยน รวมไปถึงพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐซึ่งกดดันบอนด์ยีลด์ให้ปรับตัวลดลงจนเป็นปัจจัยกดดันดอลลาร์เพิ่มเติม ปัจจัยบวกที่กล่าวมาทั้งหมดช่วยหนุนให้ราคาทองคำทะยานขึ้น +1.4% วานนี้ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่ม +2.93 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการบริการ, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐ

ปัจจัยทางเทคนิก

หากราคาทองคำไม่สามารถ break out ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,505-1,512 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นให้ราคาอ่อนตัวลงมาบ้าง เบื้องต้นประเมินว่าแนวรับระยะสั้นอยู่ในบริเวณ 1,491-1,483 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายืน ระดับนี้ได้จึงจะมีแรงดีดกลับไปทดสอบแนวต้านด้านบนอีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน

เสี่ยงเปิดสถานะซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้นหากราคาอ่อนตัวลงมาในโซน 1,491-1,483 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,483 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้อาจพิจารณาแบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,512 ดอลลาร์ต่อออนซ์

คำแนะนำ เนื่องจากราคาปรับขึ้นค่อนข้างมาก แนะนำเน้นการลงทุนระยะสั้นและไม่ควรถือสถานะข้ามวัน หากราคาไม่ผ่านแนวต้าน 1,505-1,512 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเห็นการอ่อนตัวลงระยะสั้น โดยรอเสี่ยงเปิดสถานะซื้อในบริเวณ 1,491-1,483 ดอลลาร์ต่อออนซ์