ThaiBMA ดึงเทคโนโลยี “DLT”ช่วย นลท.ตรวจสอบข้อมูลตราสารที่ลงทุน

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยอัพเดตความคืบหน้า “โครงการบาดาล” เฟสแรก นำเทคโนโลยี “DLT” ช่วยนักลงทุนตรวจสอบข้อมูลสถานะ-วันจ่ายชำระดอกเบี้ย/เงิน-วันรับคืนเงินต้นจากแต่ละตราสารหนี้ที่ลงทุน

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. ให้สามารถดำเนินการในฐานะศูนย์รับฝากหลักทรัพย์เพื่อทดสอบการนำระบบ DLT มาใช้กับการออกหุ้นกู้ในตลาดตราสารหนี้ ภายใต้ชื่อ “โครงการบาดาล“

โดยโครงการบาดาล หรือโครงการ DLT Registrar Service Platform เกิดขึ้นเพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานของระบบงานในตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชน การพัฒนาได้เริ่มจากบาดาล เฟส 1 ว่าด้วยระบบการจัดเก็บข้อมูลผู้ถือครองตราสารหนี้แบบไม่มีศูนย์กลาง ซึ่งประกอบด้วยระบบงานหลัก 4 งาน ได้แก่

1. ระบบตรวจสอบข้อมูลจองซื้อ (Validator for Bond Subscription data) ช่วยอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลการจองซื้อหุ้นกู้

2. ระบบ Smart Bond ซึ่งจะทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลและเงื่อนไขในข้อกำหนดสิทธิออกมาเป็นสถานะงานต่างๆ ตามหน้าที่ของผู้ร่วมตลาด เช่น ปฏิทินแจ้งเตือนสำหรับวันปิดสมุดทะเบียน และวันจ่ายชำระดอกเบี้ย/เงินต้น เป็นต้น

Advertisment

3. ระบบ eBond Passbook สำหรับนักลงทุนรายย่อยไว้ติดตามข้อมูลการลงทุนของตนเอง โดยสามารถทราบข้อมูลหุ้นกู้ทุกรุ่นที่ตนถือครองแม้จะมีนายทะเบียนที่หลากหลาย พร้อมทั้งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับหุ้นกู้ กำหนดการวันประชุมผู้ถือหุ้นกู้ วันปิดสมุดทะเบียนและวันจ่ายดอกเบี้ย จำนวนดอกเบี้ยที่จ่าย กำหนดการได้รับคืนเงินต้นจากหุ้นกู้แต่ละรุ่น เป็นต้น

4. ระบบแสดงผลรายงานและวิเคราะห์ข้อมูลผู้ถือครองแยกตามกลุ่มผู้ใช้งาน เพื่อให้ผู้ร่วมตลาดนำไปทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaibma.or.th/EN/Investors/Individual/Blog/2019/18122019.aspx หรือติดตามข่าวสารอื่นๆ จากสมาคมฯ ผ่านช่องทาง https://www.facebook.com/fbthaibma/