ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักวิเคราะห์ตลาดการเงินและการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดเช้าวันนี้ (2 มี.ค.) ที่ระดับ 31.52 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 31.56 บาทต่อดอลลาร์ โดยกรอบเงินบาทวันนี้อยู่ที่ 31.40-31.60 บาทต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ ในช่วงท้ายสัปดาห์ก่อน (28 ก.พ.) ตลาดหุ้นยังคงผันผวนหนัก ดัชนีวัดความกลัวอย่าง VIX Index ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 40% สูงที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตหนี้ยุโรปและช่วงที่สหรัฐถูกปรับลดเครดิตเรตติ้งในปี 2011 ดัชนี S&P500 ของสหรัฐ จึงปรับตัวลงต่อ 0.8%
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) สหรัฐร่วงหนัก 16bps ส่งผลให้ล่าสุดซื้อขายที่ระดับ 1.09% ต่ำที่สุดในประวัติการ นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบ (WTI) ก็ปรับตัวลง 4.9% พร้อมกับราคาทองคำที่ย่อตัวลง 3.6%
ทั้งหมดเกิดจากความกลัวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการระบาดของไวรัสโคโรน่า (โควิด 19) การบริโภคที่ลดลงทั้งจากการเดินทางและภาพรวมการผลิต ไปจนถึงสภาพคล่องในระบบที่หายไปอย่างรวดเร็วหลังจากตลาดการเงินปรับฐานแรง
สำหรับในสัปดาห์นี้ มีประเด็นทางเศรษฐกิจและการเมืองเข้ามาให้ติดตามเพิ่มมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขผู้จัดซื้อทั้งภาคการผลิตและนอกภาคการผลิตในจีนกับสหรัฐ (Caixin Manufacturing รายงานเช้านี้คาดว่าจะหดตัวลงมาที่ระดับ 40จุด ISM Non-Manufacturing PMI รายงานตัววันพุธ (4 ก.พ.) คาดว่าจะทรงตัวในระดับ 55 จุด) การแข่งขันกันเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันอังคาร (Super Tuseday) ขณะเดียวกันก็จะเป็นสัปดาห์ที่มีตัวเลขการจ้างงานในฝั่งสหรัฐรายงานในวันศุกร์ด้วย
“ที่น่าจับตา คือผลของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจะกดดันตลาดการเงินต่อไปหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฝั่งของสหรัฐ ที่ต้องระวังว่าจะถูกบีบจากความกลัวมากกว่าที่อื่นเนื่องจากตัวเลขส่วนใหญ่ยังคงไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาไวรัสระบาด ดังนั้นถ้าเศรษฐกิจชะลอตัวลงในตอนนี้ ตลาดอาจตีความว่าสหรัฐจะมีความเสี่ยงที่มากกว่าเศรษฐกิจอื่นในอนาคต ซึ่งจะกดดันทิศทางของดอกเบี้ยนโยบายและราคาเงินดอลลาร์ให้ลดลงได้ต่อ” ดร.จิติพลกล่าว
ในส่วนของตลาดเงิน เห็นชัดว่าเงินเยนและยูโรปรับตัวแข็งค่าขึ้นทันทีหลังจากที่ตลาดการเงินฝั่งสหรัฐปรับฐาน เนื่องจากตลาดลดการ Carry Trade ในวันนี้ เชื่อว่าจะมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากภาพธนาคารกลางสหรัฐที่ส่งสัญญาณว่าอาจมีการลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป เพราะเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ความผันผวนจะบังคับให้เฟดต้องลดดอกเบี้ย 0.25-0.50% ในการประชุมครั้งหน้า
“ส่วนในฝั่งของเงินบาท ระยะสั้นยังคงเคลื่อนไหวแข็งค่าในช่วงสภาพคล่องที่อยู่ในระดับต่ำมาก และนักเก็งกำไรต่างชาติต้องปรับลดสถานะขายเงินบาทลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เงินบาทเคลื่อนไหวผันผวน ในระยะต่อไป ต้องระมัดระวังว่าอาจมีผู้ส่งออกขายเงินดอลลาร์ตามมา เนื่องจากปัญหาสภาพคล่องและการปรับตัวลงที่เร็วผิดปกติ สวนทางกับฝั่งนำเข้าที่ชะลอตัวตามภาพเศรษฐกิจและราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง” ดร.จิติพลกล่าว
ส่วนกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้คาดว่าอยู่ระหว่าง 31.25-31.85 บาทต่อดอลลาร์