ตลาดหลักทรัพย์ฯ ตอบกระแสข่าว ‘ปรีดี’ ลาออก ไม่กระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน สะท้อนจากผลการจัดงาน ‘Thailand Focus 2020’ ต่างชาติถามเรื่องการเมืองน้อย เน้นให้ความสนใจเรื่องภาพรวมเศรษฐกิจ-การปรับตัวและแผนธุรกิจของบริษัทจดทะเบียน
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยผลการจัดงาน Thailand Focus 2020 ว่า นักลงทุนต่างชาติที่เข้าร่วมการประชุมกับบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ให้ความสำคัญกับ 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทย การปรับตัวของบริษัทจดทะเบียน และแผนการปรับตัวในระยะถัดไปของธุรกิจ โดยเฉพาะช่วง 4 เดือนที่เหลือไปจนถึงปี 2564
- ด่วน! โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.เศรษฐา 1/1 รัฐมนตรีใหม่ 13 ตำแหน่ง
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
- ทูลเกล้า 11 รายชื่อคณะรัฐมนตรี เศรษฐา 1/1 ออก 4 เข้าใหม่ 6 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ นักลงทุนต่างชาติยังให้ความสำคัญกับมาตรการและนโยบายของภาครัฐที่จะให้ความสนับสนุนด้านต่างๆ เช่น นโยบายด้านการท่องเที่ยว นโยบายการกักตัวของรัฐไทยและผลกระทบต่อการท่องเที่ยว นโยบายการท่องเที่ยวผ่านภูเก็ตโมเดล และแนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงที่เหลือไปจนถึงปีหน้า
ขณะที่ประเด็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจของบริษัทต่างๆ ให้สอดคล้องกับโลกยุคใหม่ (New Normal) เช่น การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล อีคอมเมิร์ซ การปล่อยสินเชื่อผ่านช่องทางดิจิทัล (Digital Lending) อินชัวร์เทค ฯลฯ เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ เป็นอีกมุมหนึ่งที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจเช่นเดียวกัน
ด้านความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศ เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนของไทยมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศสูงถึง 47% ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวถือเป็นการกระจายความเสี่ยงพอร์ตรายได้ของบริษัทเป็นปกติ นอกจากนี้ เนื่องจากการลงทุนส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศดังกล่าวยังมีการเติบโต ดังนั้น เชื่อว่าการกระจายพอร์ตในลักษณะนี้ยังเป็นประโยชน์มากกว่าผลเสียต่อบริษัท
- ตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดงาน Thailand Focus 2020 วันที่ 26-28 ส.ค.นี้
- ตลาดหลักทรัพย์ฯ ชู 3 จุดแข็งตลาดหุ้นไทย จูงใจต่างชาติลงทุน
- ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปลื้ม! นักลงทุนแห่ร่วม Thailand Focus 8-9 พันราย
นายภากร กล่าวอีกว่า ในส่วนของประเด็นการเมืองในประเทศ จากกรณีที่ นายปรีดี ดาวฉาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศลาออกจากตำแหน่งนั้น ชี้ว่านักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจน้อยมาก และมุ่งเน้นที่จะสอบถามเรื่องการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐเป็นหลัก
“ในส่วนของกระทรวงการคลัง เราก็ต้องติดตามว่าใครจะเข้ามารับหน้าที่ต่อไป อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต่างชาติไม่ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องการเมืองมากนัก ซึ่งเราคาดว่าเพราะภาครัฐมีมาตรการรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่ชัดเจน รวมถึงเป็นมาตรการที่ต้องใช้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ใช่ส่วนใดส่วนหนึ่งที่เป็นผู้ดำเนินการ” นายภากร กล่าว