SMEs จะใช้ประโยชน์จาก Clubhouse เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจได้อย่างไร (จบ)

คอลัมน์ SMART SMEs
TMB Analytics

2.มาก่อนได้ก่อน : โอกาสในการชิงสร้าง community และ lead generation

Clubhouse เป็นแอปที่มีความพิเศษคือ ผู้ติดตามและผู้ฟังในห้องเป็นผู้เลือกที่จะเข้ามารับฟังคอนเทนต์ด้วยตนเอง ซึ่งผู้เข้าฟังจะสามารถค้นหาห้องจากเครือข่ายเพื่อน หรือติดตามจากความสนใจในหัวข้อสนทนา ลักษณะพิเศษดังกล่าวนี้ทำให้เราสามารถเข้าถึงและตอบโต้กับกลุ่มผู้ฟังที่เป็น hyper-targeted ที่มี engagement สูง และสามารถใช้เวลากับพวกเขาได้นานกว่าการสื่อสารรูปแบบอื่น ๆ หากเป็นแพลตฟอร์มอื่น ๆ การจะทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสนใจสื่อของคุณเพียง 10 วินาที อาจจะเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ใน Clubhouse ผู้ฟังอาจยินดีที่จะใช้เวลามากกว่า 10 นาทีในการรับสารจากห้อง ๆ เดียว หากเป็นประเด็นที่พวกเขาสนใจ

ในปัจจุบันจึงมีธุรกิจหลากหลายประเภทโดยเฉพาะธุรกิจด้านบริการ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุน บริษัทที่ปรึกษาด้านการตลาด นักจัดรายการโทรทัศน์และวิทยุ รวมไปถึง SMEs จำนวนมากใช้ประโยชน์จาก Clubhouse ในการให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์ รวมไปถึงประชาสัมพันธ์เพื่อสร้าง awareness และสร้าง lead generation มายังแพลตฟอร์มของตนเอง

ดังนั้น การสร้าง call to actions (CTAs) บนหน้า profile และการใช้ Clubhouse เพื่อเชิญชวนผู้คนจากแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Instagram Facebook หรือ LINE Official จึงเป็นประเด็นที่ SMEs ควรศึกษาและให้ความสนใจ สำหรับเทคนิคในการดึง traffic ข้ามแพลตฟอร์มนั้นสามารถทำได้หลายวิธี เช่น หากทำธุรกิจในด้านการบริการระหว่างที่เปิดห้องให้คำปรึกษา หรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับกลุ่มผู้ฟังที่สนใจในประเด็นนั้น เราอาจให้โอกาสกับผู้ติดตามที่สนใจเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก โดยการเข้าไปติดตามแพลตฟอร์มที่ได้ลงข้อมูลไว้ ผ่านลิงก์ไว้ในหน้าประวัติ (bio)

ซึ่งเมื่อเราได้ lead และสร้างชุมชนจากกลุ่มคนที่สนใจแล้ว ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการทำให้ธุรกิจเข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภค เมื่อพวกเขาต้องการข้อมูล หรือถ้าหากทำธุรกิจด้านการค้าก็สามารถให้สิทธิพิเศษโดยการให้สมาชิกกดรับคูปองใน LINE Official หรือรับภาพคูปองโปรโมชั่นพิเศษ ผ่านลิงก์บนหน้าประวัติได้เช่นกัน

3.เลือกเวลาที่ใช่ ยังไงก็ปัง : โอกาสในการดึงดูดความสนใจจากกลุ่มผู้ใช้งานในช่วง prime time

หากเปรียบเทียบกับการทำ Facebook Live หรือ streaming ประเภทอื่น ๆ ที่ต้องอาศัยการเตรียมตัวทั้งภาพและเสียงนั้น Clubhouse มีต้นทุนในการทำต่ำกว่า เพราะใช้เพียงแค่เสียง และสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ได้สูงกว่าแพลตฟอร์มอื่นมาก เนื่องจากการสนทนากับผู้ฟังสามารถทำได้แบบ real-time โดยผู้เข้าร่วมไม่ต้องเขินอายจากการต้องเปิดเผยหน้าตา

จะเห็นได้ว่าแม้เป็นเพียงบุคคลทั่วไปก็สามารถสร้างห้องที่มีผู้เข้าร่วมหลายร้อยคนได้ หากเลือกประเด็นที่น่าสนใจ และเลือกช่วงเวลาที่ถูกต้อง จากข้อมูล Google Analytics และ Google Trends ย้อนหลังในช่วงกลางเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าจำนวนกิจกรรมในแอปพลิเคชั่นจะพุ่งสูงที่สุดใน 2 ช่วง ช่วงแรกคือ เวลา 20.00-23.00 น. โดยจะมีความนิยมสูงสุดในช่วง 22.00 น. นอกจากช่วงดึกแล้ว ช่วงเวลายอดนิยมลำดับที่ 2 คือ ช่วงเช้าก่อนเข้างาน (08.00-10.00 น.) แม้ยอดคนเข้าดูจะไม่สูงเท่าช่วงดึก แต่กลุ่มผู้ฟังจะเป็นกลุ่มวัยทำงาน ซึ่งจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันมี content creator จำนวนมากได้ปรับตัวและสร้างห้องที่ตอบโจทย์กับคนกลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

จาก 3 ประเด็นที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าการลงทุนกับ Clubhouse ณ ช่วงเวลานี้ เปรียบเสมือนการได้เป็นผู้นำในธุรกิจบนแพลตฟอร์ม เช่นเดียวกับในยุคของการเติบโตของ Facebook/Instagram/YouTube/Twitter ในหลายปีก่อน หรือแม้กระทั่ง TikTok ในช่วงปีที่ผ่านมาแนวคิดการสนทนาโต้ตอบด้วยเสียงที่ Clubhouse นำเสนอ

จึงถือเป็นโอกาสของ SMEs ในการสร้าง community และฐานลูกค้าในต้นทุนที่ต่ำ ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ที่ควรเรียนรู้และนำไปปรับใช้กับธุรกิจ