บลจ.ทิสโก้ ปลื้มกองทุน TUSMS สร้างผลตอบแทนเด่น รับ ศก.สหรัฐฟื้นตัว

กลุ่มทิสโก้

บลจ.ทิสโก้ ปลื้มกองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส Mid/Small Cap อิควิตี้ (TUSMS) ปิดขาย IPO ไม่ถึงเดือนสร้างผลตอบแทนย้อนหลังโดดเด่น รับเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัว แนะลูกค้าถือเพื่อลงทุนต่อยังไม่ใช่จังหวะขายทำกำไร มั่นใจหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กของสหรัฐมีศักยภาพการเติบโตระยะยาว

วันที่ 12 กรกฎาคม 2564 นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด และที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กของสหรัฐ สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่เติบโตในระดับที่ดี ส่งผลให้กองทุนที่มีนโยบายลงทุนหุ้นของบริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดขนาดกลางและเล็กสหรัฐ อย่างกองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส Mid/Small Cap อิควิตี้ (TUSMS) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) ที่เพิ่งเสนอขายไอพีโอไปเมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายนสามารถสร้างผลตอบแทนย้อนหลังได้อย่างโดดเด่น

ทั้งนี้ ตามข้อมูลของ บลจ.ทิสโก้ นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน TUSMS (11-30 มิ.ย. 64) ในระยะเวลาไม่ถึง 1 เดือน กองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) เพิ่มขึ้นจาก 10 บาทต่อหน่วยลงทุน เป็น 10.6268 บาทต่อหน่วยลงทุน หรือเพิ่มขึ้น 6.27% และยังคงมีเม็ดเงินไหลเข้าซื้อต่อเนื่องหลังจากที่กองทุนเริ่มเปิดให้สามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ ทำให้กองทุนมีมูลค่าโครงการกว่า 510 ล้านบาท

ขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกันดัชนีชี้วัดของกองทุน คือ ผลการดำเนินงานของกองทุนรวมหลักปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อคำนวณผลตอบแทนในรูปสกุลเงินบาท ณ วันที่คำนวณผลตอบแทนในสัดส่วน 100% มีผลตอบแทนย้อนหลังอยู่ที่ 8.28% ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม ไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

อย่างไรก็ตาม แม้ราคาหน่วยลงทุนปรับขึ้นมาระดับหนึ่งจากราคาเสนอขายไอพีโอ แต่ บลจ.ทิสโก้แนะนำให้นักลงทุนถือเพื่อลงทุนต่อในระยะกลางถึงยาว ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีไปพร้อมกับศักยภาพการเติบโตของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก อีกทั้งเศรษฐกิจหรัฐ มีโอกาสเติบโตได้ดีในระยะยาว เพราะได้รับแรงหนุนจากมาตรการของรัฐวงเงินกว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ซึ่งประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมเสนอต่อรัฐสภาเร็ว ๆ นี้ อีกทั้งนโยบายต่าง ๆ ที่กำลังอยู่ระหว่างพิจารณา เช่น การขึ้นภาษี, กฎหมายการผูกขาดการค้า ล้วนส่งผลกระทบกับหุ้นขนาดกลาง-เล็กอย่างจำกัด ขณะที่ด้านตลาดหุ้นสหรัฐก็ซึมซับข่าวการปรับลดสภาพคล่องในระบบของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ไประดับหนึ่ง ส่วนนักลงทุนเริ่มคลายความกังวล และเริ่มเห็นแรงซื้อหุ้นเติบโตกลับเข้ามาบ้างแล้ว

นอกจากนี้ ด้วยกลยุทธ์การลงทุนของกองทุนหลักอย่าง กองทุน Granahan US SMID Select FUND ชนิดหน่วยลงทุน A (Acc)-USD ก็มีความน่าสนใจตรงที่ผู้จัดการกองทุนซึ่งมีประสบการณ์การลงทุนในหุ้นขนาดกลางขนาดเล็กของสหรัฐกว่า 22 ปีจะลงไปวิเคราะห์และพูดคุยกับผู้บริหารในแต่ละบริษัทที่เป็นเป้าหมายการลงทุนด้วยตัวเอง จากหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กของสหรัฐที่มีมากถึง 1,345 บริษัท การเข้าไปพูดคุยแบบเจาะลึกจะทำให้ผู้จัดการกองทุนสามารถเลือกลงทุนได้ตั้งแต่ราคายังไม่ปรับขึ้นไปมากนัก และด้วยจำนวนหุ้นที่มีให้เลือกมากกว่าหุ้นขนาดใหญ่ ทำให้เมื่อราคามูลค่าหุ้นเริ่มสูงเกินไป หรือปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยน ผู้จัดการกองทุนก็สามารถปรับเปลี่ยนหุ้นได้อย่างหลากหลายอีกด้วย

สำหรับ 3 กลยุทธ์หลักในการเลือกหุ้น คือ

1. หุ้นที่มีคุณภาพ มีรายได้สม่ำเสมอ และมีงบการเงินแข็งแกร่ง โดยหุ้นกลุ่มนี้จะถือลงทุนประมาณ 1-7 ปี

2. หุ้นที่มีนวัตกรรมที่โดดเด่น สามารถรุกตลาดใหม่ ๆ ได้ แม้ว่าจะยังไม่มีกำไร แต่มีโอกาสเติบโตสูง โดยหุ้นกลุ่มนี้จะถือลงทุนประมาณ 1-10 ปี

3. หุ้นที่มีจุดเปลี่ยนสำคัญ ทั้งในเชิงการผลิตสินค้าและบริการ การตลาด เปลี่ยนการบริหารจัดการ เปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหม่ รวมถึงหุ้นที่มีการควบรวมกิจการ โดยหุ้นกลุ่มนี้จะถือลงทุนประมาณ 1-3 ปี

ทั้งนี้ กองทุนเปิด TUSMS อาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในต่างประเทศ จึงมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม ผู้สนใจลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน