ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 21 พฤศจิกายน 2560 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างสัญญาเงินกู้โครงการก่อสร้างทางสายหลักเป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2) ทางหลวงหมายเลข 22 ช่วงอำเภอหนองหาน-อำเภอพังโคน ทางหลวงหมายเลข 22 ช่วงสกลนคร-นครพนม (กิโลเมตรที่ 180-213) และทางหลวงหมายเลข 23 ช่วงร้อยเอ็ด-ยโสธร รวมระยะทางก่อสร้าง 124.90 กิโลเมตร มีกำหนดการสร้างแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2565 โดยให้กระทรวงการคลังดำเนินการกู้เงินในนามรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยจากธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asia Development Bank : ADB) สำหรับโครงการดังกล่าว กรอบวงเงิน 99.40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อายุเงินกู้ 13 ปี รวมระยะเวลาปลอดหนี้ (Grace Period) 3 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 6 MLIBOR+Spread-Rebate ต่อปี (ตามประกาศของ ADB ณ วันที่ 11 ก.ค.60 ส่วนต่าง (Spread) เป็นร้อยละ 0.50 ต่อปี และส่วนลดสำหรับประเทศสมาชิก (Rebate) เป็นร้อยละ 0.05 ต่อปี) ค่าธรรมเนียมผูกพันเงินกู้ ร้อยละ 0.15 ต่อปี โดยคำนวณจากยอดเงินกู้ที่ยังไม่เบิกจ่ายและเริ่มคำนวณภายหลังจากวันที่ลงนามในสัญญาเงินกู้แล้ว 60 วัน ในกรณีที่มีข้อพิพาทหรือข้อขัดแย้งระหว่างคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายที่ไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้ต้องเสนอต่ออนุญาโตตุลาการในการระงับข้อพิพาท ทั้งนี้ เพื่อให้การบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนในการกู้เงินต่างประเทศให้กระทรวงการคลังจะเบิกจ่ายเงินกู้จาก ADB คราวเดียวกันทั้งหมด
