SET พักตัวแนวรับ 1,615-1,620 จุด ตามทิศทางตลาดรอบบ้าน

หุ้น
ภาพ Pixabay

หุ้นไทย (SET) วันนี้พักตัวแนวรับ 1,615-1,620 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นรอบบ้านที่อ่อนลง ด้านนักลงทุนคลายกังวลที่เฟดจะลด QE เร็วกว่าคาดหลังตัว CPI ออกมาต่ำกว่าคาด ทั้งนี้ ครม.เห็นชอบมาตรการดึงต่างชาติลงทุนในไทยเป็นบวกกับกลุ่มอสังหาฯ-นิคมอุตสาหกรรม

วันที่ 15 กันยายน 2564 บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี หรือ บล.กรุงศรี คาดดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ พักตัวแนวรับ 1,615-1,620 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นรอบบ้านที่อ่อนตัวลง โดยแม้ว่าตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ส.ค. ของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดจะทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะลดวงเงิน QE เร็วขึ้นไปได้บ้าง แต่ความกังวลสหรัฐปรับขึ้นภาษีนิติบุคคลจาก 21% เป็น 26.5% นั้นเป็นแรงกดดันต่อภาวะการลงทุนในช่วงนี้ ดังนั้นจึงแนะนำให้เข้าซื้อช่วงอ่อนตัวโดยเน้นกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวต่อไป

สำหรับปัจจัยวันนี้ หลังดัชนีดาวโจนส์ -292 จุด (-0.84%) ปิดที่ 34,578 จุด จากข่าวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐพรรคเดโมแครตเสนอให้ปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคล (corporate tax rate) จากระดับ 21% สู่ระดับ 26.5% และให้ปรับขึ้นภาษีกำไรที่ได้จากการลงทุน (capital gains tax) และเงินปันผลขึ้นสู่ระดับ 28.8% ภาษีที่สูงขึ้นคาดว่าจะทำให้กำไรของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐลดลงประมาณ 5%

ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้นเพียง 1 เซนต์ ที่ 70.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ยืนแกร่งสวนทิศทางตลาดหุ้นดาวโจนส์ โดยตลาดน้ำมันได้แรงหนุนจากนักลงทุนกังวลซัพพลายน้ำมันดิบตึงตัวในสหรัฐหลังเกิดพายุเฮอริเคนนิโคลัสเตรียมพัดเข้าสู่อ่าวเม็กซิโกอีกครั้งจะทำให้แท่นผลิตน้ำมันได้รับความเสียหายนับเป็นการเกิดพายุเฮอริเคนถึง 2 ลูกในเวลา 2 สัปดาห์

ทั้งนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการดึงต่างชาติลงทุนในไทยเป็นบวกกับกลุ่มอสังหาฯ และนิคม โดยมาตรการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงและเป็นผู้พำนักระยะยาว (long-term stay) แบ่งเป็น 4 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ 1.กลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง 2.กลุ่มผู้เกษียณอายุ 3.กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย และ 4.กลุ่มผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ระยะดำเนินการ 5 ปีงบประมาณ (2565-2569) คาดเพิ่มชาวต่างชาติประมาณ 1 ล้านคน เพิ่มใช้จ่ายในประเทศประมาณ 1 ล้านล้านบาท

บล.กรุงศรี แนะนำหุ้นน่าจับตาวันนี้ ได้แก่ TU หรือบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ราคาปิดที่ 21.6 บาทต่อหุ้น แนะนำซื้อ/เป้าหมายราคาที่ 22.4 บาทต่อหุ้น ได้บรรยากาศ (Sentiment) บวกเงินบาทกลับมาอ่อนค่า ธุรกิจเข้าสู่ High season และในช่วงปลายปีมีการนำบริษัทลูก (TFM) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้าจดทะเบียนในตลาด

และอีกตัวคือ WHA หรือบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ราคาปิดที่ 3.16 บาทต่อหุ้น ซื้อ/แนะนำเป้าหมายราคาที่ 4.8 บาทต่อหุ้น มีข่าวดีหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการดึงต่างชาติลงทุนในไทย ส่งผลดีต่อกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรม ส่วนแนวโน้มผลกำไรของ WHA ยังเติบโตได้ดีทั้งยอดขายที่ดิน คลังสินค้า และธุรกิจสาธารณูปโภค (น้ำและไฟฟ้า)