หุ้นไทยแกว่งตัว 1,610-1,630 จุด นักลงทุนกังวลหุ้นกู้ Evergrande

ตลาดหุ้นไทยเช้านี้จะแกว่งตัวออกข้าง 1,610-1,630 จุด ท่ามกลางการหักล้างปัจจัยบวกลบ หลังผลประชุม FED ยังไม่เร่งลดวงเงิน QE-จับตาวิกฤตหนี้ Evergrande กระทบสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกระยะสั้น-SET เข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว หวั่นนักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังเก็งกำไร-อาจขายลดความเสี่ยงบางส่วนจนกว่าจะเห็นความชัดเจนหุ้นกู้ Evergrande ในสัปดาห์หน้า ส่งผล SET ยังไม่น่าขยับไปไหนได้ไกล

วันที่ 23 กันยายน 2564 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่า คาดดัชนี SET Index เช้านี้จะแกว่งตัวออกข้างระหว่าง 1,610-1,630 จุด ท่ามกลางการหักล้างระหว่างปัจจัยบวกและลบหลังผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED) วานนี้ยังไม่เร่งลดวงเงิน QE Tapering แต่จะทำภายในปีนี้แน่นอน ขณะที่ประเด็นวิกฤตหนี้ Evergrande ยังคงต้องจับตาพัฒนาการที่จะส่งผลกระทบในระยะสั้นจากการครบกำหนดชำระหนี้ในช่วงนี้ ประกอบกับตลาดหุ้นไทยจะเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว

จึงคาดนักลงทุนส่วนใหญ่จะเพิ่มความระมัดระวังในการเก็งกำไร และอาจมีการขายลดความเสี่ยงบางส่วนจนกว่าจะเห็นความชัดเจนประเด็นหุ้นกู้ Evergrande ในสัปดาห์หน้า ทำให้ SET Index ยังไม่น่าขยับไปไหนได้ไกล

วานนี้การประชุม FED มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.00-0.25% พร้อมกับคงวงเงิน QE ไว้ตามเดิม แต่ส่งสัญญาณว่าจะเริ่มลดวงเงิน QE ในเร็วๆ นี้ และหากเศษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวดีต่อเนื่อง เฟดจะค่อยๆ ลดวงเงิน QE จนไปสิ้นสุดในช่วงกลางปี 65 ส่วน FOMC Dot Plot ชี้ให้เห็นว่ากรรมการ FED ส่วนใหญ่มองว่าจะมีการปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 1 ครั้งในปี 65 ต่างจากการประชุมในรอบเดือน มิ.ย. ที่คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วสุดในปี 66

ด้าน Evergrande ยืนยันจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ในประเทศ แต่ดอกเบี้ยหุ้นกู้ต่างประเทศยังไม่มีความชัดเจน ทางฝ่ายวิจัยแนะนำให้ติดตามปัจจัยนี้อย่างใกล้ชิด อาจกดดันสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกในระยะสั้น แม้ว่าวานนี้บริษัท Evergrande จะออกมายืนยันต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เสิ่นเจิ้นว่าบริษัทได้บรรลุข้อตกลงในการจ่ายชำระหนี้ดอกเบี้ยหุ้นกู้ให้กับเจ้าหนี้ในประเทศเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่มีรายละเอียดว่าดอกเบี้ยที่บริษัทจะชำระนั้นมีมูลค่าเท่าไร และจะชำระเมื่อใด ซึ่งดอกเบี้ยก้อนดังกล่าวมีมูลค่ากว่า 35.9 ล้านดอลลาร์ ซึ่งครบกำหนดวันนี้

อย่างไรก็ตามบริษัท Evergrande ยังมีดอกเบี้ยหุ้นกู้ต่างประเทศที่ต้องชำระอีกกว่า 83.5 ล้านดอลลาร์ ที่ครบกำหนดในวันนี้เช่นกัน ขณะที่ในสัปดาห์หน้ายังมีดอกเบี้ยหุ้นกู้ต่างประเทศที่เข้าคิวการชำระอีก 47.5 ล้านดอลลาร์ โดยล่าสุดทางบริษัทยังไม่มีการพูดถึงเกี่ยวกับหุ้นกู้ต่างประเทศทั้ง 2 ชุด

ขณะที่อดีตที่ปรึกษาธนาคารกลางจีนเผยวิกฤตหนี้ Evergrande จะส่งผลกระทบต่อระบบการเงินไม่มาก แม้วิกฤตหนี้ครั้งนี้จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเติบโต GDP ของจีน เพราะภาคอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นสัดส่วนหลักต่อ GDP จีน หากแต่ผลกระทบต่อระบบการเงินจะมีไม่มาก เนื่องจากไม่มีการใช้เครื่องมือตราสารอนุพันธ์มาเกี่ยวข้อง สอดคล้องกับความเห็นนักวิเคราะห์ในต่างประเทศว่าวิกฤตหนี้ในรอบนี้จะไม่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างเหมือนกับวิกฤต Lehman Brothers ในปี 2551 เนื่องจากสินทรัพย์ในมือของบริษัทส่วนใหญ่คือที่ดิน ขณะที่ Lehman Brothers ถือสินทรัพย์ทางการเงินเป็นหลัก

ผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นกับระบบการเงินจึงมีความรุนแรงแตกต่างกัน โดยสรุปทางฝ่ายวิจัยคาดว่านักลงทุนอาจคลายกังวลได้บางส่วน แต่ความจริงที่บริษัทอาจผิดนัดชำระหนี้ ยังมีแนวโน้มที่จะปกคลุมสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกต่อในระยะสั้น