บลจ.กสิกรไทย มองเป้าดัชนีหุ้นไทยปีหน้าเเตะ 1,850 จุด รับเศรษฐกิจฟื้นตัว-ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ลดลง รวมถึงความหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ส่วนสิ้นปีนี้มองไว้ที่ 1,650 จุด ชี้มีความกังวลการระบาดระลอกใหม่ แต่คาดว่าจะไม่รุนแรงมากนักเนื่องจากอัตราการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต, CFA, รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า คาดการณ์ทิศทางตลาดหุ้นไทย (SET) ระยะสั้น 1-3 เดือนข้างหน้า มองเป้าดัชนีอยู่ที่ 1,650 จุด คาดว่าจะสามารถปรับตัวขึ้นได้ในกรอบ (Slideway-up) จากภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายหลังจากผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
- ร้อนทะลุ-โลกเดือด “เอลนีโญ” ถึง “ลานีญา” ถล่มประเทศไทย
- กดเงินไม่ใช้บัตร ATM พุ่ง 3 เท่า แห่เปิดใช้ข้ามแบงก์-เพิ่มค่าฟี
- ธ.ก.ส. เผย สินเชื่อดอกเบี้ยล้านละร้อย เหลือวงเงินกู้อีก 1.5 หมื่นล้าน
รวมถึงความหวังจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ จึงให้เน้นลงทุนในหุ้นที่คาดว่าผลดำเนินงานจะฟื้นตัวในไตรมาส 4/64 นี้และในปีหน้า 2565 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการเปิดประเทศ แต่ในปี 2564 นี้ใกล้จะหมดปีแล้วจึงให้มองระยาวไปถึงปีหน้าด้วย
สำหรับระยะกลาง-ยาว มองเป้าดัชนีหุ้นไทยไว้ที่ 1,850 จุด ทั้งนี้คาดการณ์แนวรับไว้ที่ 1,550 จุด แต่คาดว่าโอกาสที่จะเกิดขึ้นมีน้อยเนื่องจากมีการฉีดวัคซีนในอัตราที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยตัวเลขการฉีดวัคซีนคาดว่าจะครบ 100 ล้านโดสได้ภายในปีนี้ ทำให้ประชากรมีภูมิคุ้มกันมากขึ้นจึงมีแนวโน้มเป็นบวก รวมถึงภาคการส่งออกยังที่ขยายตัวดีต่อเนื่องทั้งในปีนี้และปีหน้า
ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตาม 3 เรื่อง ได้แก่
- สถานการณ์ซัพพลายเชน ดิสรัปชั่นและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงินของธนาคารสำคัญของโลก เนื่องจากจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกในระยะถัดไป
- สถานการณ์โควิด-19 ที่จะเริ่มคลี่คลาย จึงเน้นลงทุนในหุ้นที่คาดว่าจะสามารถเติบโตได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยและได้ประโยชน์จาก Sceular trend ของโลก
- ทั้งนี้คาดว่าจะยังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาต่อเนื่องเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย จึงเน้นลงทุนในหุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากมาตรการภาครัฐ
ทั้งนี้ตลาดหุ้นไทยปีหน้ามองว่าจะเริ่มฟื้นตัวมากขึ้น โดยผลตอบแทนสำหรับตลาดหุ้นไทยในปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 13.4% โดยหุ้นขนาดใหญ่ปรับตัวขึ้นมาได้น้อยกว่าเมื่อเทียบกับดัชนีของตลาดหลักทรัพย์ โดยจะเห็นได้จากเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติที่ขายสุทธิหุ้นไทยออกไปกว่า 6 หมื่นล้านบาท และเริ่มที่จะเห็นสัญญาณการกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทยของต่างชาติเพิ่มขึ้นตั้งแต่ในช่วงเดือน ก.ย.
โดยคาดว่าต่างชาติจะเข้ามาซื้อหุ้นไทยเพิ่มขึ้นแต่คงไม่ได้กลับมาสูงมากนักเนื่องจากมองว่าประเทศไทยยังไร้แรงขับเคลื่อน ขาดธุรกิจใหม่ ๆ ที่จะช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติได้ โดยคาดการณ์อัตราผลตอบแทนปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 15% จากระดับดัชนีหุ้นไทยปัจจุบัน
“แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะลดลง แต่อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ยังเป็นที่น่ากังวลยังเป็นเรื่องของการระบาดของสถานการณ์โควิด-19 ที่อาจจะกลับมาระบาดอีกรอบ ในระลอกที่ 4 เหมือนกับในหลายประเทศที่กำลังเผชิญ ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องเฝ้าระวังและติดตาม แต่จากการที่ได้รับวัคซีนอย่างต่อเนื่องอาจจะทำให้สถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นไม่ได้รุนแรงมากเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา” นางสาวธิดาศิริ กล่าว
