หุ้นน้องใหม่ TRV นักลงทุนแห่จองซื้อไอพีโอ! เข้าเทรด mai 2 ธ.ค.นี้

หุ้นไทย-set

หุ้นไอพีโอน้องใหม่ “ที.อาร์.วี. รับเบอร์ โปรดักส์” หรือ TRV กระแสตอบรับดีนักลงทุนแห่จองหุ้นไอพีโอ 54.56 ล้านหุ้น ผู้บริหารยันพร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำในการผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนยางขึ้นรูปในยานยนต์-เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างแข็งแกร่งในอนาคต เตรียมเข้าซื้อขายวันแรกใน mai วันที่ 2 ธ.ค.นี้

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 นายวรนันท์ ถาวรนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ของบริษัท ที.อาร์.วี. รับเบอร์ โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TRV เปิดเผยว่า ในช่วงเปิดจองซื้อหุ้นไอพีโอของ TRV ระหว่างวันที่ 24-26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีนักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาจองซื้อเต็มจำนวน สะท้อนความเชื่อมั่นที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ TRV ทั้งศักยภาพการเติบโตในอุตสาหกรรม แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 แต่บริษัทก็ยังคงความสามารถในการบริหารจัดการด้วยความเป็นมืออาชีพ เงินระดมทุนจะนำมาใช้เพิ่มศักยภาพการผลิต และการขยายฐานลูกค้า

“มั่นใจว่า TRV จะสามารถเติบโตต่อไปในอนาคต และทำให้ได้รับการตอบรับในวันเข้าซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดสินค้าอุตสาหกรรม วันที่ 2 ธันวาคม 2564 นี้”

ทั้งนี้ TRV เสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 54.56 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท กำหนดราคา IPO หุ้นละ 2.30 บาท โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย พร้อมด้วย บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายธีรวุฒิ นวมงคลชัยกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที.อาร์.วี. รับเบอร์ โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TRV เปิดเผยว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ประมาณ 125.50 ล้านบาท บริษัทจะนำไปใช้สำหรับเป็นเงินทุนในการซื้อเครื่องจักร จำนวน 85.00 ล้านบาท ภายในปี 2568 เพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมแก่สถาบันการเงิน จำนวน 10.00 ล้านบาท ภายในปี 2566 เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน จำนวน 22.83 ล้านบาท ภายในปี 2566 และเป็นค่าใช้จ่ายในการเสนอขายหลักทรัพย์ จำนวน 7.67 ล้านบาท ภายในช่วงเวลาเสนอขายหลักทรัพย์ในครั้งนี้ โดยแผนการระดมทุนครั้งนี้จะนำเงินไปใช้ลงทุนซื้อเครื่องจักรจำนวน 15 เครื่อง ซึ่งจะสนับสนุนให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 94 ล้านชิ้น จากกำลังการผลิต ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 จำนวน 98.78 ล้านชิ้นต่อปี (หากคิดจำนวนเต็มปี) คาดกำลังการผลิตจะเพิ่มเป็นประมาณ 192.78 ล้านชิ้นต่อปีในปี 2568

“บริษัทมีจุดแข็ง คือ ความเชี่ยวชาญตลอดระยะเวลามากกว่า 20 ปี ได้รับความไว้วางใจในการผลิตและส่งมอบสินค้า ส่งผลให้บริษัทได้รับความไว้วางใจผลิตและส่งมอบผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยางขึ้นรูปซึ่งเป็นชิ้นส่วนประกอบของรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ดังต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่สัญชาติญี่ปุ่น เป็นหนึ่งฐานลูกค้าหลักของบริษัท บริษัท มีเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ โดยให้ความสำคัญในทุกกระบวนการ และส่งมอบสินค้าได้ตรงตามกำหนดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการทำงานของบริษัท อีกทั้งสามารถเพิ่มหรือขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับการเติบโตและขยายตัวทางธุรกิจของลูกค้า”

ปัจจุบัน TRV มีกลุ่มครอบครัวนวมงคลชัยกิจ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ภายหลังไอพีโอถือหุ้นรวมกัน 62.29% และในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ยินดีติดไซเรนท์ พีเรียดในสัดส่วนตามเกณฑ์ และไม่มีนโยบายที่จะขายหุ้นออกไป เพราะเป็นธุรกิจที่ครอบครัวสร้างมากับมือ