วรรณชูแผนรุกทรัสต์อสังหาฯ ปี’61 แปลงกองพีพี-ตั้ง REIT ใหม่ 3 พันล้าน

บลจ.วรรณ รับปีนี้ตกรถรับสิทธิยกเว้นภาษี “กองอสังหาฯ” แปลงสภาพเป็น “รีท” ที่หมดอายุสิ้นปีนี้ จำใจแปลงสภาพ “กอง พี พี ฮอลิเดย์ฯ” เป็นรีทกลางปีหน้าแทน พร้อมเพิ่มทุนหนุนซื้อสินทรัพย์ใหม่เน้น รร. หวังอานิสงส์ท่องเที่ยว เปิดแผนตั้งรีทเพิ่ม 2-3 กองทุน ดันไปถึงเป้ามูลค่าสินทรัพย์เพิ่มปีละ 2-3 พันล้านบาท

นายอลงกรณ์ ประธานราษฎร์นิกร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า เนื่องจากรัฐได้ออกนโยบายการยกเว้นภาษีการแปลงสภาพกองทุนอสังหาริมทรัพย์เป็นทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ซึ่งจะครบกำหนดภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งบริษัทมีกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่สามารถแปลงสภาพเป็นรีทเพื่อรับสิทธิยกเว้นภาษีได้ทันปีนี้แล้ว อย่างไรก็ตาม แม้ไม่ได้สิทธิภาษีดังกล่าว บริษัทก็ยังเห็นโอกาสของการนำกองอสังหาฯแปรสภาพเป็นรีทในระยะยาว ดังนั้นในปีหน้าจึงมีแผนจะนำกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยแลนด์ โฮสพีทาลิตี้ (TLHPF) ที่ลงทุนในกรรมสิทธิ์ (freehold) สินทรัพย์ของโครงการโรงแรม พี พี ฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท แปลงเป็นกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)

“ตอนนี้การแปลงกองอสังหาฯมาเป็นรีทคงเหลือน้อยแล้ว ขณะที่มาตรการของรัฐที่ยกเว้นภาษีของกองอสังหาฯที่แปรสภาพเป็นรีทจะหมดภายในสิ้นปีนี้ ดังนั้นน่าจะมีบางกองที่ตกรถ ซึ่งกองพี พีฯ ของเราก็เป็นส่วนหนึ่งที่ตกรถด้วย แต่ก็มองว่าจะยังสามารถสร้างโอกาสในระยะยาวได้ ดังนั้น เราเตรียมจะนำกองพี พีฯ นี้แปลงสภาพเป็นรีทช่วงกลางปี และจะทยอยเพิ่มสินทรัพย์ลงทุนในกองนี้ ซึ่งในเบื้องต้นจะลงทุนในโรงแรมในประเทศที่มีศักยภาพทำกำไร และผลตอบแทนที่จะมอบให้ ก็จะทำให้ขายไม่ยาก จูงใจนักลงทุนเข้ามา” นายอลงกรณ์กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเปิดกองรีทใหม่อีกจำนวน 2-3 กอง ซึ่งสอดรับกับเป้าหมายการเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์บริหาร (AUM) เฉลี่ยปีละ 2-3 พันล้านบาท โดยจะมีนำร่องรีทใหม่ที่จะเปิดตัว 1 กองทุน มูลค่า 1 พันล้านบาท โดยเป็นการลงทุนในศูนย์การค้า ส่วนที่เหลือ 2 กองทุนจะมีมูลค่าเฉลี่ย 1-2 พันล้านบาท จะเป็นการลงทุนในโรงแรม

“ขณะนี้สินทรัพย์ส่วนใหญ่ที่ใส่เข้ามากองรีท จะเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เนื่องจากมีศักยภาพในการทำกำไร และเป็นธุรกิจที่นำรายได้เข้าประเทศเป็นอันดับต้น ๆ โดยแม้ว่าปีหน้าจะมีปัจจัยเรื่องอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าสินทรัพย์ประเภทโรงแรมจะให้ผลตอบแทนดีเฉลี่ย 6% และหากเป็นแบบสิทธิ์ให้เช่า (ลีสโฮลด์) มักจะทำอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 7-8%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเก็บภาษีกองทุนอสังหาฯแบบเดิมมีภาษีจากการทำธุรกรรม แต่ภาษีนิติบุคคลยังได้รับการยกเว้น ซึ่งหลังรัฐบาลได้ประกาศเลิกมาตรการยกเว้นภาษีสำหรับสินทรัพย์ของกองทุนรวมอสังหาฯ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT), อากรแสตมป์ และภาษีธุรกิจเฉพาะ แต่ในส่วนของภาษีนิติบุคคลยังคงได้รับการยกเว้นเช่นเดิม ส่วนค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนกองทุนอสังหาฯเป็น REIT ยังคงได้รับการยกเว้นถึงสิ้นปี 2560 โดยปัจจุบันกองทุนอสังหาฯไม่มีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมและภาษี