ESG Bonds ของไทย มีความหลากหลายและน่าสนใจไม่น้อย

ยั่งยืน
คอลัมน์ : สถานีลงทุน
ผู้เขียน : สุธาสินี เฉียงขวา สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย

นับตั้งแต่มีหลักเกณฑ์การออกและเสนอขายตราสารหนี้ด้านความยั่งยืน หรือ ESG (environmental, social and governance) bonds ครั้งแรกในไทยเมื่อปี 2019 มูลค่าการออก ESG bonds ได้เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี จากยอดการออกที่ 29,040 ล้านบาทในปี 2019 ซึ่งเป็นปีแรกที่เพิ่งมีเกณฑ์ ปรับเพิ่มขึ้นมาที่ 173,800 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2021 ขยายตัวขึ้นเกือบ 6 เท่าในช่วง 3 ปี

ในด้านผู้ออกก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นทั้งจากภาครัฐและเอกชน โดยมีการนำเงินไปใช้ในโครงการต่าง ๆ อย่างหลากหลายที่ล้วนแล้วแต่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเกิดประโยชน์กับสังคม ภายใต้ขอบเขตการดำเนินธุรกิจของแต่ละบริษัท ดังนี้

ผู้ออกส่วนใหญ่นำเงินไปพัฒนาพลังงานทางเลือกเช่นเดียวกับหลาย ๆ ประเทศ ทั้งการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมโดย บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) และ บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ของ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) และ บมจ.เอสพีซีจี (SPCG) รวมถึงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนใต้พิภพโดย บมจ.บีซีพีจี (BCPG)

นอกจากนี้ การพัฒนาระบบขนส่งด้วยพลังงานสะอาดก็เป็นอีกวัตถุประสงค์ที่ได้รับความนิยม ซึ่งก็คือระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายต่าง ๆ ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองโดย บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป (BTSG) รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือ-ใต้โดย บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) รถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีเหลืองโดย บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินโดย บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM)

ผู้ออกหลายรายมีการใช้เงินทุนเพื่อบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดความยั่งยืนด้วย ไม่ว่าจะเป็นโครงการปลูกป่าของ บมจ.ปตท. (PTTC) การทำประมงอย่างยั่งยืนของ บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) การบริหารจัดการขยะแบบครบวงจรโดย บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่ชั้นบรรยากาศของ บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL)

วัตถุประสงค์เพื่อชุมชนและสังคมก็มีไม่น้อย ทั้งการจ้างงานและบรรเทาผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก นำเงินไปใช้ฟื้นฟูเยียวยาผลกระทบจากโควิด บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) นำเงินไปซื้อวัตถุดิบและจ้างงานเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รวมถึงการสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยโดยการเคหะแห่งชาติ (NHA)

ทั้งนี้ ผู้ออกบางรายได้กระจายความสามารถในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม และสร้างสังคมที่ยั่งยืนด้วยการนำเงินไปให้สินเชื่อต่อ เช่น ธ.ก.ส. (BAAC) สนับสนุนสินเชื่อเพื่อการสร้างพื้นที่ป่าและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม บจ.โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) (TLT) ให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่ช่วยลดการปล่อยควันพิษ รวมทั้งธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ที่ปล่อยสินเชื่อแก่โครงการเพื่อสังคมหรือสิ่งแวดล้อม

จะเห็นได้ว่า การออก ESG bonds ของไทย มีวัตถุประสงค์การใช้เงินที่มีความหลากหลายมากขึ้น จากจำนวนผู้ออกที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกันกับการตอบรับที่ดีขึ้นจากนักลงทุน

ซึ่ง ESG bonds จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้การเติบโตทางเศรษฐกิจมีความยั่งยืน เป็นการช่วยกันคนละไม้คนละมือของทั้งบริษัทเอกชนที่เป็นผู้ออกและนักลงทุน เพื่อให้สังคมของเรามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมไปกับทรัพยากรธรรมชาติที่จะอยู่กับเราต่อไปอย่างยั่งยืน