ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่า หลังจาก ศบค.ปรับมาตรการรับผู้เดินทางเข้าประเทศ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพรายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565

ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (23/2) ที่ระดับ 32.41/45 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (22/2) ที่ระดับ 32.37/40 บาท โดยเช้าวันนี้ (23/2) ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากการที่นักลงทุนหันมาถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ จากความกังวลต่อสถานการณ์ยูเครนที่มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดความรุนแรงมากขึ้น

โดยล่าสุดวุฒิสภารัสเซียมีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน สามารถใช้กองทัพรัสเซียนอกประเทศได้เพื่อให้การสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครน ส่วนทางด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรธนาคาร VEB ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของรัสเซีย และคว่ำบาตรธนาคาร PSB ซึ่งเป็นธนาคารของกองทัพรัสเซีย โดยมาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้ธนาคารทั้งสองแห่งไม่สามารถทำธุรกรรมในรูปสกุลเงินดอลลาร์ได้

นอกจากนี้ยังคว่ำบาตรตราสารหนี้ของรัสเซีย รวมถึงกลุ่มผู้ทรงอิทธิพลของรัสเซียตลอดจนคนในครอบครัว สำหรับตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐ เมื่อคืนนี้ เปิดเผยผลสำรวจของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ ปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 โดยร่วงลงสู่ระดับ 110.5 ในเดือนกุมภาพันธ์ จากระดับ 111.1 ในเดือนมกราคม ซึ่งรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ ยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอีกด้วย อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดของยูเครน และรัสเซีย ซึ่งกดดันให้นักลงทุนเริ่มลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง รวมไปถึงสกุลเงินในตลาดเกิดใหม่อย่างค่าเงินบาท

สำหรับปัจจัยในประเทศ ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าในช่วงบ่าย หลังจากโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยมีมติปรับมาตรการป้องกันโรคสำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร โดยปรับลดในส่วนการตรวจครั้งที่ 2 ด้วย RT-PCR ในวันที่ 5 หลังจากเดินทางเข้ามาในประเทศ เป็นการตรวจแบบ ATK แทน เพื่อลดค่าใช้จ่ายหลังได้รับการร้องขอมา

นอกจากนี้ ที่ประชุม ศบค.เห็นชอบปรับลดวงเงินประกันสุขภาพนักท่องเที่ยวจากเดิม 50,000 เหรียญสหรัฐ มาเป็นไม่น้อยกว่า 20,000 เหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 32.20-32.46 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 32.22/26 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้านี้ (23/2) ที่ระดับ 1.1334/36 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (22/2) ที่ระดับ 1.1336/38 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร สำหรับตัวเลขทางเศรษฐกิจ เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ดัชนีบรรยากาศทางธุรกิจของเยอรมนี อยู่ที่ระดับ 98.9 ในเดือนกุมภาพันธ์ มากกว่าที่นักลงทุนคาดการณ์ที่ระดับ 96.1 และสูงกว่าในเดือนมกราคมที่อยู่ระดับ 96.0 ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1325-1.1348 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1346/48 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (23/2) ที่ระดับ 115.01/03 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (22/2) ที่ระดับ 114.85/88 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ นักลงทุนยังคงจับตาดูสถานการณ์ของยูเครนและรัสเซีย หลังจากที่สหรัฐและชาติยุโรปอื่น ๆ ออกมาใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย

โดยในวันนี้สำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า นายฟูมิโอ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่า ญี่ปุ่นจะใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียหลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารไปประจำการยังแคว้นโดเนตสก์และลูฮันสก์ทางภาคตะวันออกของยูเครน อันเป็นเขตแบ่งแยกดินแดน ซึ่งฝักใฝ่รัสเซีย ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 115.02-115.12 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 115.12/15 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ (24/2), ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐเดือน ม.ค. (25/2), ดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคลพื้นฐานเดือน ม.ค.ของสหรัฐ (25/2)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ +0.5/+0.6 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -2.4/-1.4 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ