BLA ปี’64 กำไรโตเกือบ 100% แตะ 3,196 ล้าน

กรุงเทพประกันชีวิต กำไรสุทธิปี’64 แตะ 3,196 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98.7% อานิสงส์เบี้ยประกันรวมโต 2% แตะ 33,992 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายรวม44,405 ล้านบาท ลดลง 3% ส่วนใหญ่จากการรับประกันภัย ด้านผลตอบแทนจากการลงทุนทั้งปีอยู่ที่ 3.97%

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA เปิดเผยว่า ปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 3,196 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน คิดเป็นกำไร 1.87 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 99% จากปี 63 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเบี้ยประกันภัยรับและค่าใช้จ่ายการรับประกันภัยที่ลดลง

โดยปี 64 บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรวมอยู่ที่ 33,992 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อน โดยเบี้ยประกันปีต่อเพิ่มขึ้น 5% แต่เบี้ยประกันปีแรกลดลง 4% เหลือ 6,262 ล้านบาท สาเหตุหลักจากข้อจำกัดในการขายผ่านช่องทางธนาคารในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมีเบี้ยประกันปีแรกช่องทางแบงก์แอสชัวรันซ์ลดลง 14%

ในขณะที่ช่องทางตัวแทนมีเบี้ยประกันปีแรกเพิ่มขึ้น 8% จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้น และการมุ่งเน้นการขายสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง และเบี้ยประกันปีแรกช่องทางอื่นๆ เติบโต 25% จากเบี้ยประกันภัยกลุ่มและช่องทางออนไลน์ ทั้งนี้สัดส่วนเบี้ยประกันปีแรก แยกเป็นช่องทางแบงก์แอสชัวรันซ์ 58% ช่องทางตัวแทน 29% และช่องทางอื่นๆ อีก 12%

ส่วนค่าใช้จ่ายในปี 64 มีจำนวนทั้งสิ้น 44,405 ล้านบาท ลดลง 3% จากปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการลดลงของค่าใช้จ่ายรับประกันภัยที่ลดลง 3% ด้านรายได้ลงทุนสุทธิปี 64 รวมทั้งสิ้น 13,006 ล้านบาท ลดลง 2% จากปีก่อน โดยผลตอบแทนจากการลงทุนในปี 64 ทั้งปีอยู่ที่ 3.97%

และอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน(Capital Adequacy Ratio:CAR) สิ้นปี 64 อยู่ที่ 301% เพิ่มขึ้นจากปี 63 ที่ 274% จากผลกำไรจากการดำเนินงาน และมูลค่าพื้นฐานของกิจการ (Embedded Value) วันที่ 31 ธ.ค.64 เท่ากับ 68,152 ล้านบําท คิดเป็น 39.95 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 1% จากปี 63 จากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าปัจจุบันของกรมธรรม์ใหม่

มูลค่าปัจจุบันของกรมธรรม์ใหม่(Value of New Business) เท่ากับ 2,250 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 95% จากปีที่ผ่านมา สาเหตุหลักมาจากการปรับแผนการขายสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงและการปรับสมมุติฐานผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาวให้สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น

สำหรับงวดในไตรมาส 4/64 บริษัทมีกำไรสุทธิ 274 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67.6% จากปีก่อน แต่ลดลง 76.8% จากไตรมาสก่อนหน้าที่มีกำไร 1,181 ล้านบาท โดยบริษัทมีเบี้ยประกันรับปีแรก 1,611 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 17% จากไตรมาสก่อน ช่องทางธนาคารมีเบี้ยประกันปีแรกเพิ่มขึ้น 74% จากไตรมาส 4/63 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่อนคลายขึ้น

ช่องทางตัวแทนมีเบี้ยประกันปีแรกเพิ่มขึ้น 5% YoY และเพิ่มขึ้น 30% QoQ จากการออกผลิตภัณฑ์ Unit-linked และการปรับกลยุทธ์การขาย ขณะที่ช่องทางอื่นๆ มีเบี้ยประกันปีแรกเพิ่มขึ้น 15% YoY จากเบี้ยประกันปีแรกในช่องทางออนไลน์

แต่เบี้ยประกันปีต่อลดลง 7% อยู่ที่ 6,385 ล้านบาท จากกรมธรรม์ที่ครบกำหนดการชำระในช่วงไตรมาส 4/64

ทั้งนี้บริษัทได้มุ่งให้ความสำคัญในการส่งเสริมการก้าวสู่สังคมไร้เงินสดและลดการใช้ทรัพยากร ด้วยการจัดทำโครงการ “ร่วมลดได้ลุ้น 70ปี กรุงเทพประกันชีวิต” สำหรับลูกค้าที่ทำธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์ตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยแคมเปญ ร่วมลดได้ลุ้น จะดำเนินการไปจนถึงวันที่ 15 ส.ค.65

รวมทั้งบริษัทยังคงให้ความสำคัญในการสร้างและพัฒนาตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงิน ผ่านโครงการรับรองรายได้ผู้บริหารตัวแทนมืออาชีพ (Smart Leader) เพื่อยกระดับการพัฒนาคุณภาพทีมงานขายอย่างมั่นคงและยั่งยืน และร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ ด้านแผนการลงทุนคู่ความคุ้มครองผ่านที่ปรึกษาการเงินของบริษัท เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านการเงินให้ประชาชนทุกกลุ่ม