“2 ผู้แทนคลัง” ไขก๊อกบอร์ดยาสูบ-ลุ้นแก้ปมภาษีบุหรี่

“อำนวย-ปัญญา” 2 ผู้แทนคลังไขก๊อกบอร์ดยาสูบ ชี้เพื่อความเหมาะสมตามหลักธรรมาภิบาล ขณะที่โรงงานยาสูบอ้างยอดขายหด 70% จี้อธิบดีสรรพสามิตใช้อำนาจ “ประกาศราคา” ยึดตามฐานนิยม ด้านอธิบดี “กฤษฎา” ลั่นหาข้อสรุปจบไม่เกินสิ้นปีนี้

แหล่งข่าวจากโรงงานยาสูบเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายอำนวย ปรีมนวงศ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง และนายปัญญา ฉายะจินดาวงศ์ รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการยาสูบ โดยที่คณะกรรมการ (บอร์ด) ได้อนุมัติเรียบร้อยแล้ว ซึ่งขณะนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) อยู่ระหว่างพิจารณาแต่งตั้งบุคคลที่เหมาะสมเข้าไปแทน

อำนวย ปรีมนวงศ์

ขณะที่การแก้ไขปัญหาที่โรงงานยาสูบได้รับผลกระทบจากโครงสร้างภาษีสรรพสามิตยาสูบใหม่นั้น ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของกรมสรรพสามิต ที่ต้องหารือกับนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง ให้ได้ข้อสรุปออกมา ซึ่งขณะนี้มีข้อเสนอขยับขึ้นด้านราคา จากปัจจุบันที่บุหรี่ราคาต่ำกว่า 60 บาท จะเสียภาษีในด้านมูลค่า 20% และบุหรี่ราคาสูงกว่า 60 บาทขึ้นไป เสียที่อัตรา 40% จะขยับราคาตรงกลางไปที่ 65 บาท

“อาจจะกำหนด 2 เทียร์เหมือนเดิม ขยับแต่ราคา ซึ่งก็มีการมองกันว่า ถ้าไม่มีมาตรการป้องกันการลดราคาบุหรี่ ก็คงไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา” แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นภาวะที่ไม่ปกติ ดังนั้นสามารถใช้อำนาจอธิบดีกรมสรรพสามิตประกาศราคายาสูบที่ควรเป็นได้เลย โดยอิงกับราคาฐานนิยม หรือราคาที่ขายกันอยู่ทั่วไป ซึ่งเป็นไปตามที่กฎกระทรวงให้อำนาจไว้อยู่แล้ว

แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมายอดขายบุหรี่ของโรงงานยาสูบ ตกลงไปมากถึง 60-70% โดยหากเข้าไปดูตามร้านสะดวกซื้อจะพบว่า มีแต่บุหรี่ต่างประเทศวางขายเต็มไปหมด

ขณะที่นายอำนวย กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้ลาออกจากบอร์ดยาสูบเรียบร้อยแล้ว เพื่อเป็นการลดจำนวนผู้แทนกระทรวงการคลัง ในบอร์ดยาสูบลง จากก่อนหน้านี้ที่มีถึง 4 คนด้วยกัน

นายจุมพล ริมสาคร รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะกรรมการยาสูบ กล่าวว่า การลาออกจากบอร์ดยาสูบของนายอำนวย กับนายปัญญานั้น เป็นไปตามความเหมาะสม โดยกรณีนายปัญญาที่เป็นรองอธิบดีกรมสรรพสามิต ถือว่าเป็นผู้กำกับดูแล (เรกูเลเตอร์) โรงงานยาสูบ ขณะที่กรณีนายอำนวยนั้น เนื่องจากนายอำนวยเป็นประธานคณะกรรมการประเมินผลรัฐวิสาหกิจ รวมถึงเพื่อเป็นการลดจำนวนกรรมการที่เป็นผู้แทนคลัง ที่ก่อนหน้านี้มีถึง 4 คนลง

“เป็นเรื่องที่ทาง สคร.บอกให้ยึดหลักธรรมาภิบาล (CG) ซึ่งตอนนี้ก็เหลือผม กับนายยุทธนา หยิมการุณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง นั่งเป็นกรรมการยาสูบ ในฐานะผู้แทนคลัง 2 คน” นายจุมพลกล่าว

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ที่ออกมา กรมสรรพสามิตได้พยายามทำให้เป็นกลางมากที่สุด แต่หากจะมีการได้เปรียบเสียเปรียบกัน กรมก็กำลังพิจารณาว่า ผลกระทบเป็นอย่างไร ซึ่งหากเห็นว่าสิ่งที่กรมออกมาทำให้เกิดผลกระทบต่อตลาด หรือผู้ประกอบการ ก็สามารถปรับปรุงแก้ไขได้ โดยกรมจะหารือกับฝ่ายนโยบาย และจะพิจารณาให้เสร็จก่อนสิ้นปี 2560 นี้

“ผมเข้ามาก็ดูว่า กฎหมายบังคับใช้แล้ว 3 เดือน จะต้องมาประเมินผลว่า กฎหมายที่เราใช้ไป ทำให้ผู้ประกอบการสะดวก ง่ายขึ้น หรือว่าทำให้เขาลำบากมากขึ้น แล้วมีผลกระทบอะไรกับใครบ้าง ใครได้เปรียบเสียเปรียบ ก็จะสรุปออกมาเร็ว ๆ นี้ ส่วนการจะใช้อำนาจอธิบดีประกาศราคา ต้องมีเงื่อนไขหลายอย่างถึงจะประกาศได้ เช่น ในตลาดขายราคาที่แจ้งกับเราจริงไหม แล้วก็ต้องไปดูด้วยว่าราคาที่แจ้งมาเป็นเหตุเป็นผลกับต้นทุนหรือไม่” นายกฤษฎากล่าว

นอกจากนี้ ทางกรมสรรพสามิตได้ปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตทั่วประเทศ ในช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. 2560 พบว่ามีการกระทำผิด จำนวน 3,962 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 161.37 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็น คดียาสูบ 1,544 คดี จำนวนบุหรี่ของกลาง 6,470,620 มวน คิดเป็นเงินค่าปรับ 111.11 ล้านบาท