ซิโน-ไทยแจงปมก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ล่าช้า ค้างค่าปรับ 6 พันล้าน

อาคารรัฐสภาแห่งใหม่

STEC ชี้แจงผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ปมโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ล่าช้า ระบุข่าวถูกเรียกค่าปรับสะสมกว่า 6 พันล้านบาทคลาดเคลื่อน ยันบริษัทเข้าข่ายเป็นผู้ได้รับความช่วยเหลือ-ได้รับการเว้นค่าปรับ จากเหตุเจอผลกระทบโควิด-ขาดแคลนแรงงาน

วันที่ 4 กรกฎาคม 2565 บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ชี้แจงข่าวการดำเนินงานโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยระบุว่า บริษัทเป็นผู้รับจ้างดำเนินงานโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยมีสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้ว่าจ้าง

และสืบเนื่องจากมีการเสนอข่าวคลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง เกี่ยวกับการกดดันจากบุคคลทางการเมืองพยายามให้ผู้ว่าจ้างพิจารณาเรียกค่าปรับการส่งมอบงานล่าช้าและกล่าวอ้างว่าปัจจุบันมีค่าปรับสะสมกว่า 6 พันล้านบาทแล้วนั้น

บริษัทขอชี้แจงว่า บริษัทได้มีการแจ้งสงวนสิทธิการขยายเวลา งด ลดค่าปรับ ประกอบด้วยเหตุซึ่งไม่ใช่ความผิดของผู้รับจ้าง (ซึ่งมีอยู่หลายประการ) เหตุการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และเหตุกรณีขาดแคลนแรงงานอันเนื่องมาจากการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท ให้กับผู้ว่าจ้างพิจารณาแล้ว

และถ้าพิจารณาถึงการช่วยเหลือผู้ประกอบการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 ก็จะพบว่าบริษัทเข้าข่ายเป็นผู้ได้รับความช่วยเหลือจากมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว โดยหลักเกณฑ์ตามหนังสือคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ เลขที่ กค (กวจ) 0405.2/ว693 ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2564

ประกอบกับ หนังสือคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลาง ที่ กค (กวจ) 0405.2/ว645 ลงวันที่ 21 มิถุนายน 2565 ได้กำหนดให้คิดค่าปรับในอัตราร้อยละศูนย์ เป็นจำนวนเท่ากับวันที่ 26 มีนาคม 2563 จนถึง 30 มิถุนายน 2565 คิดเป็นจำนวน 828 วัน ตามประกาศกรมบัญชีกลางที่อ้างถึง อันส่งผลให้เมื่อนำเหตุจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มาพิจารณากับโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ก็จะมีระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือค่าปรับเป็นศูนย์ (0) ไปจนถึงวันที่ 7 เมษายน 2566