สรุปสั่งฟ้อง”เปรมชัย”ล่าสัตว์ป่าฯ 8 ข้อหา อีก 3 ฟ้อง 9 ข้อหา อัยการตั้งทีมตรวจสำนวน

สรุปสั่งฟ้อง”เปรมชัย”ล่าสัตว์ป่าฯ 8 ข้อหา อีก 3 ฟ้อง 9 ข้อหา อัยการตั้งทีมตรวจสำนวน “อสส.” กำชับรวดเร็ว โปร่งใส

เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่สำนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ รองเลขานุการอัยการสูงสุด และนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เดินทางลงพื้นที่ร่วมกับนางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 เเละสำนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ รับสำนวนการสอบสวนคดีที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้ส่งสำนวนคดีอาญาของ สภ.ทองผาภูมิ เป็นคดีระหว่าง นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก กล่าวหานายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) นายยงค์ โดดเครือ นางนที เรียมแสน และนายธานี ทุมมาศ ผู้ต้องหาที่ 1-4 โดยกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 4 ว่า

ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งซากของสัตว์ป่าอันได้มาโดยการกระทำผิดกฎหมาย ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และโดยไม่มีเหตุอันสมควร รวม 9 ข้อหา ในชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 4 ได้ให้การปฏิเสธ โดยมีนางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 เป็นผู้รับสำนวนพร้อมร่วมกันเเถลงข่าว

โดยนายธรัมพ์กล่าวว่า สำหรับคดีนี้พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนพร้อมความเห็นเสนอให้สั่งฟ้อง นายเปรมชัย ผู้ต้องหาที่ 1 จำนวน 8 ข้อหา ส่วนข้อหาที่ 9 ที่เป็นข้อหาพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น พนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากอาวุธปืนของกลาง เป็นของนายเปรมชัยที่ได้รับอนุญาตให้มีไว้ครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย ส่วนความผิดข้อหาร่วมกันกระทำอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์ พนักงานสอบสวนไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้งหมด เนื่องจากเห็นว่าการกระทำไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย และพนักงานสอบสวนเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 2-4 ใน 9 ข้อกล่าวหา

นางสมศรี อธิบดีอัยการภาค 7 กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนทั่วไป เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นผู้มีชื่อเสียงในสังคม ทั้งสื่อมวลชนและกลุ่มองค์กรด้านการคุ้มครองพิทักษ์สัตว์ป่าและทรัพยากรธรรมชาติ ได้ติดตามการดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง จึงถือเป็นคดีสำคัญ เพื่อให้การพิจารณาคดีเป็นไปโดยรอบคอบ รวดเร็ว และโปร่งใส จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานประกอบด้วย นายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 เป็นหัวหน้าคณะทำงาน พร้อมด้วยนายทนง ตะภา อัยการจังหวัดทองผาภูมิ พ.ต.ท.อำนาจ สุจริตชัย รองอัยการจังหวัดกาญจนบุรี และนายกฤษฎา ชูโต รองอัยการจังหวัดทองผาภูมิ เป็นคณะทำงาน เมื่อคณะทำงานพิจารณาและมีความเห็นเสนอตนและมีคำสั่งทางคดีเรียบร้อยแล้ว จะมีการแถลงความคืบหน้าคดีนี้ให้ทราบต่อไป

ด้านนายประยุทธกล่าวว่า เรื่องนี้ทางนายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด มีความห่วงใยเนื่องจากเป็นคดีสำคัญ ประชาชนมีความสนใจ จึงสั่งการให้ทีมโฆษกลงพื้นที่ประสานงานกับทางสำนักงานอัยการภาค 7 และอัยการจังหวัดทองผาภูมิ เพื่อให้ข่าวกับประชาชนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้สังคมเข้าใจภารกิจของสำนักงานอัยการสูงสุด จึงเป็นตัวแทนมาร่วมแถลงข่าวร่วมกับอธิบดีอัยการภาค 7 ในวันนี้

เมื่อถามว่า อัยการสูงสุดได้กำชับเรื่องคดีนี้อย่างไรบ้าง นายประยุทธกล่าวว่า อัยการสูงสุดไม่ได้กำชับเรื่องในสำนวนคดี เนื่องจากคดีนี้นางสมศรี อธิบดีอัยการภาค 7 ลงมาดูคดีนี้ด้วยตนเองโดยใกล้ชิดอยู่แล้ว แต่อัยการสูงสุดจะเน้นเรื่องการทำคดีด้วยความรวดเร็ว โปร่งใส และให้รายงานความคืบหน้าในคดีให้อัยการสูงสุดทราบโดยตรง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้พนักงานสอบสวนไม่ได้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนมาพร้อมกับสำนวน เนื่องจากตัวผู้ต้องหาได้มีการฝากขังไว้ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิแล้ว ตามคดีหมายเลขดำที่ ฝ.34/2561 โดยจะครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 4 ในวันที่ 25 มีนาคมนี้