สลด! รถตู้ขนแรงงานต่างด้าว เฉี่ยวชนรถพ่วง ย่างสดชาวเมียนมา 3 ราย

เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 17 มีนาคม ร.ต.อ.ภูริวัฒน์ พิลึก ร้อยเวร สภ.พรหมบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้รถตู้โดยสาร มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เหตุเกิดบริเวณถนนสายเอเชีย หลัก กม.77+400 ต.บ้านแป้ง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูสิงห์บุรี

ที่เกิดเหตุพบรถตู้ถูกเพลิงไหม้วอดทั้งคัน ทราบเพียงหมายเลขทะเบียน 33-1501 กทม. มีผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในจำนวน 3 ราย ถูกไฟไหม้จนเกรียม เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องตัดถ่างช่วยกันนำร่างออกมา ผู้เสียชีวิตทราบเพียงเป็นแรงงานชาวพม่า ไม่สามารถตรวจสอบรายชื่อได้ เนื่องจากเอกสารต่างๆ ในตัวผู้ตายถูกไฟไหม้จนหมด เป็นชาย 1 ราย และหญิง 2 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 10 ราย เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลสิงห์บุรี 8 ราย และส่งโรงพยาบาลพรหมบุรี 2 ราย ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร พบรถพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ติดสติ๊กเกอร์ด้านหน้าว่า โชคดีทรายทอง หมายเลข 80-8432 สิงห์บุรี จอดอยู่ในสภาพล้อหลังด้านขวาบิดเบี้ยว ข้างรถพ่วง พบประตูฝั่งผู้โดยสารของรถตู้หลุดออกมากองอยู่ข้างๆ

สอบถามนายสุวนาถ จันทร์สง คนขับรถพ่วงให้การว่า ตนขับรถพ่วงบรรทุกแร่ยิปซั่มจะไปส่งที่อยุธยา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้แวะเติมน้ำมันและจะเลี้ยวยูเทิร์นเพื่อเดินทางต่อ ขณะนั้นรถตู้ที่วิ่งมาด้วยความเร็ว พุ่งมาชนด้านขวาของรถพ่วง จนประตูของรถตู้หลุดออกมา ผู้โดยสารในรถตู้กระเด็นออกมานอนร้องโอดโอยเกลื่อนถนน ตนจึงรีบจอดรถและลงไปให้ความช่วยเหลือ

ด้านนายรณกร ต้อนรับ คนขับรถตู้กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้รับแรงงานชาวพม่าจำนวน 12 คน จากกรุงเทพมหานคร จะเดินทางไปจังหวัดเชียงราย แรงงานบางคนเดินทางไปเพื่อต่อวีซ่า บางรายต้องการกลับบ้าน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ รถพ่วงได้เลี้ยวเบียดกะทันหัน ตนจึงหักหลบแต่ไม่พ้น ประตูฝั่งผู้โดยสารกระแทกกับรถพ่วงจนหลุดออก ผู้โดยสารที่กำลังนอนหลับกระเด็นออกมาหลายราย ล้อด้านหน้าฝั่งขวาของรถตู้หลุดออก จนเกิดประกายไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ตนรีบออกจากรถ แต่ผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ถูกอัดติดอยู่ด้านหน้า ไม่สามารถช่วยเหลือออกมาได้ทัน เนื่องจากไฟลุกไหม้เร็วมาก

เจ้าหน้าที่จึงนำคนขับรถทั้งคู่ มายัง สภ.พรหมบุรี เพื่อตรวจวัดแอลกอฮอล์ และทำการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง ส่วนศพผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย จะนำส่ง รพ.ตำรวจ เพื่อตรวจสอบอัตลักษณ์และติดต่อญาติให้มารับศพต่อไป

Advertisment

 

ที่มา : มติชนออนไลน์